'GENTRY แปลว่าสุภาพหรือเปล่านะ อาจจะรากมาจาก GENTLE?' คุณออมพูดออกมาขณะที่ผมกำลังขับรถไปโครงการตาม Google Map อยู่ใน 'ซ.วิภาวดี 62'

 

        'GENTRY อาจจะเป็นชื่อเฉพาะ ไม่มีคำแปลก็ได้' ผมตอบพลางพูดเปลี่ยนเรื่อง

 

        'ซอยนี้น่าอยู่นะ ถนนกว้างขวาง เป็นระเบียบ ต้นไม้เยอะ ร่มรื่น มีบ้านใหญ่น่าอยู่เยอะแยะเลย ดูผู้ดีๆ นะ'

 

        'ใช่แล้ว GENTRY แปลว่า ผู้ดี!!!!' คุณออมโพล่งออกมา หลังจากกดหาคำแปลใน Google

 

        ชื่อโครงการ 'The GENTRY' ของค่าย SC Asset คงไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ขนาดผมที่ไม่รู้คำแปล ยังพูดถึงคุณลักษณะของทำเลนี้ออกมาตรงตามคำแปลของโครงการก่อนจะรู้ความหมายของมันซะอีก

 

        'The GENTRY วิภาวดี' ตั้งอยู่ใน 'ซ.วิภาวดี 62' แต่ทะลุไปออก 'ซ.วิภาวดี 64' ได้แบบเหมือนเป็นซอยเดียวกัน ความสำคัญของ 'ซ.วิภาวดี 64' ก็คือ มีตลาดใหญ่ ร้านค้า คึกคักอยู่ที่ปากซอย มี 7-11 ถึง 2 สาขา ร้านอาหารเพียบ! ข้อดีของ 'The GENTRY' ก็คือ สามารถไปจับจ่ายซื้อของได้ไม่ยาก แต่ไม่ได้ตั้งอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายนั้น เพราะปากซอย 64 ตอนเช้ารถติดมาก!

 

        ผมมีเพื่อนอาศัยอยู่ในซอยนี้ถึง 2 คน เมื่อพิจารณาดูแล้ว ถือว่าเป็นคนมีฐานะดี (ดีกว่าผมแน่ๆ ฮ่าๆ)

 

        คาแรคเตอร์ก็จะเป็นคนที่มีรถยนต์ส่วนตัว ต้องการบ้านที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เพราะข้างในซอย 62, 64 ถือว่าสงบ ร่มรื่นมากทีเดียว เหมาะเป็นอย่างยิ่งกับคนที่ใช้งาน 'ถ.วิภาวดี' เป็นประจำ หรือสะดวกที่จะใช้เป็นทางผ่านไปที่อื่น แต่เพิ่ม Option ในการไปทะลุออก 'ซ.พหลโยธิน 49/1' ตรงแถว 'ม.ศรีปทุม' ได้ด้วย แต่เส้นทางอาจจะคดเคี้ยวหน่อย Landmark ใหญ่ที่ใกล้เคียงได้แก่ ม.เกษตรฯ และ Central ลาดพร้าว เป็นต้น

 

        'The GENTRY วิภาวดี' สามารถพูดได้เต็มปากว่าเป็นหมู่บ้านแบบ 'Private Luxury' เพราะมีแค่ 10 หลัง!!! หลังที่ถูกที่สุดคือ 39 ล้านบาท และแพงที่สุดอยู่ที่ 86 ล้านบาท!!! หรูหราหมาเห่าปะล่ะ!!!

 

        คิดดูว่าถนนให้รถวิ่งในโครงการเป็น 'Stamp Concrete' ทั้งหมด เป็นบุญยางล้อรถผมเจงๆ ฮ่าๆๆ

 

        และก็เป็นบุญตาของข้าพเจ้าจริงๆ ที่ SC Asset ให้มาดูโครงการนี้ เพราะตอนไปถึงรถของลูกค้าที่มาเข้าชมจอดอยู่ 2 คัน ได้แก่ Porsche และ Mini Cooper ทำเอาผมต้องถอย Toyota ของผมไปจอดแอบไว้ข้างๆ ฮ่าๆๆ

 

        'The GENTRY วิภาวดี' ถึงแม้จะมีแค่ 10 หลัง แต่ก็มีแบบบ้านถึง 3 แบบ ได้แก่

 

        1. TRIBECA : (4 ยูนิต) บ้านเดี่ยว 3 ชั้น พื้นที่ดิน 69.7-83.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 433 ตร.ม. มี 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และ 3 ที่จอดรถ พร้อม 'สระว่ายน้ำ' และ 'สวน' ส่วนตัว และมีพื้นที่รองรับการติดลิฟท์ (แต่ไม่ได้ให้ลิฟท์มาด้วย)

 

        ราคา 39-52 ล้านบาท

 

        2. HUDSON : (4 ยูนิต) บ้านเดี่ยว 3 ชั้น พื้นที่ดิน 102.5-142.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 593 ตร.ม. มี 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ และ 4 ที่จอดรถ พร้อม 'สระว่ายน้ำ' และ 'สวน' ส่วนตัว และมีลิฟท์ให้ 1 ตัว ยี่ห้อ Mitsubishi นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น

 

        ราคา 58-86 ล้านบาท

 

        3. KENT : (2 ยูนิต) บ้านแฝด 3 ชั้นครึ่ง พื้นที่ดิน 52.5-54.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 431 ตร.ม. มี 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และ 3 ที่จอดรถ พร้อม 'สระว่ายน้ำ' และ 'สวน' ส่วนตัว

 

        ราคา 34-35 ล้านบาท

 

        บ้านตัวอย่างที่ผมไปดูมา มี 2 หลัง ได้แก่ TRIBECA และ HUDSON จากที่เมื่อสัปดาห์ก่อน ตอนที่ผมไปดู 'Bangkok Boulervard พระรามห้า' กับคุณออม แล้วผมเอ่ยว่า 'ดูที่นี่แล้ว โครงการก่อนหน้านี้จืดไปเลย' แต่พอมาดู 'The Gentry วิภาวดี' แล้ว 'Bangkok Boulervard ก็ดูหวานน้อยลงไปเหมือนกันนะ ฮ่าๆๆๆ' ไม่ใช่ว่า 'Bankok Boulervard' ไม่สวย แต่ 'The GENTRY' มันอัพไปอีกระดับหนึ่งเลย

 

        ว่ากันถึง Function ในบ้านก่อน ในส่วนของ Living Room ดูโปร่งด้วย Double Volume ที่ให้ความสูงระดับ 6.8 ม. (TRIBECA) และ 7.3 ม. (HUDSON) และแบ่งสัดส่วนพื้นที่ใช้สอยมาได้ดีมาก โดยเฉพาะ 'สระว่ายน้ำ' และ 'สวน' ที่วาง Layout ให้เหมาะกับโซน Living Room ได้ดีมาก ทั้งการเข้า-ออก และความสวยงาม

 

        พื้นบ้านใช้ 'Engineering Wood 20 มม.' ส่วนบันไดใช้ 'ไม้มะค่า' ใช้สีไม้ได้เข้ากันมาก ดูหรูหราและน่าใช้ ส่วนพื้นกระเบื้องใช้ลายหินอ่อนให้ดูหรูหราเช่นกัน

 

        HUDSON ให้ลิฟท์ Mitsubishi ขนาดกะทัดรัด รับน้ำหนักได้ 250 กก. มาด้วย ผมลองใช้แล้ว ดูมีความเป็นญี่ปุ่นมั่กๆ ส่วนแบบ TRIBECA มีแค่ห้องไว้รองรับ ถ้าไม่ติดลิฟท์ ก็ใช้เป็นห้องเก็บของได้

 

        แน่นอนว่าบ้านระดับนี้ 'สุขภัณฑ์' ต้องเป็น Auto ทั้งหมดอยู่แล้ว แต่ในห้อง Master Bedroom จะมีอ่าง Jacuzzi ที่สั่งการผ่าน Smart Phone ได้ด้วย!!!

 

        บ้าน HUDSON เนี่ย แอบมีมุมพิเศษอยู่ที่ชั้น 2 เป็นมุมจัด 'Party' เล็กๆ แบบ Outdoor โดยมีวิวเป็นสระว่ายน้ำและสวนที่ชั้น 1 เพดานสูง 6.5 ม. ให้ดูโปร่งโล่ง (เผื่อย่าง BBQ แล้วควันเยอะ อิอิ) บอกเลยว่าโซนนี้สายปาร์ตี้ Happy เเน่นอน หรือแม้แต่ 'สายชาบูหมูกระทะ' แบบผมยังอิจฉาเลย

 

        ในความเห็นส่วนตัวผมชอบ Layout ห้อง Master Bedroom ของ TRIBECA มากกว่า HUDSON นะ ไม่ใช่ว่า HUDSON ไม่ดี แต่เป็นเรื่อง Function การใช้งานมากกว่า เพราะ HUDSON ห้องแต่งตัวอลังการมาก คุณผู้หญิงน่าจะชอบ (มีการแซวกันเล่นๆ ว่า ถ้าวันไหนไปหาเพื่อนที่อยู่บ้านนี้ แล้วเพื่อนไล่ให้ไปนอนห้องแต่งตัวหรือห้องนั่งเล่น จะรีบไปเลย ฮ่าๆๆ)

 

        ผมกับคุณออมดูบ้านตัวอย่าง อย่างเพลิดเพลินมาก ส่วนนึงเป็นเพราะพื้นที่ใหญ่ แต่ส่วนนึงก็เป็นเพราะรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เราชื่นชมในความคิด เช่น ห้องตั้งเครื่องซักผ้าที่ชั้น 2 ของบ้าน HUDSON ทำมาได้น่าใช้งานมาก มีบาร์เล็กๆ ให้ใช้เวลารอเสร็จงาน แบบไม่ต้องกลับไปห้องอื่นก่อน

 

        ผมถามว่าถ้ามีคนอยากได้บ้านตัวอย่างเลยจะขายหรือไม่และราคาเท่าไหร่

 

        'ขายนะครับ ก็จะแพงกว่าบ้านเปล่าประมาณ 10-20 ลบ.'

 

        สำหรับผมแล้ว ถ้ามีกำลังซื้อบ้านระดับนี้ การจ่ายเพิ่ม 10-20 ลบ. ถือว่าไม่แพงเลย เพราะ SC เค้าแต่งได้จัดเต็มจริงๆ สวย และประหยัดเวลา เราไม่ต้องปวดหัวไปจัดการเองอีกด้วย

 

        ค่าส่วนกลางที่นี่ 99 บาท/ตร.วา ถือว่าถูกนะสำหรับบ้านระดับนี้ แต่เหตุผลก็คือ ส่วนกลางแทบจะไปอยู่ในบ้านกันเองหมดเลย เหลือค่าใช้จ่ายแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่นิติฯ คอยประสานงาน และน้ำ/ไฟอื่นๆ อีกเล็กน้อยเท่านั้น

 

        วันที่ผมมาดูโครงการ เป็นกลางวันของวันธรรมดา ก็ยังต้องต่อคิวเหมือนเดิมนะครับ บ้านราคาแบบนี้ก็ยังมีคนสนใจแม้ในช่วงเวลาที่เราคิดว่าเศรษฐกิจจะตกต่ำที่สุดในรอบหลายสิบปี

 

        คนที่เค้ามีกำลังซื้อ ไม่ได้แปลว่าเค้าไม่ได้รับผลกระทบนะ เพียงแต่เค้ายังมีสายป่านที่ยาว (มากกกกก) และคิดว่าการซื้อในช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี เพราะราคาจะถูกกว่าในช่วงปกติ มันเลยอาจจะดูแปลกตาอยู่บ้างที่คนออกมาดูบ้านแบบคึกคักในช่วงนี้ แต่มันก็มีเหตุผลของมันอยู่นะ

 

        เริ่มติดใจบ้านของ SC ASSET แล้วล่ะ จะขอไปดูเพิ่มอีกสักหน่อย แล้วอาจจะไปดูของเจ้าอื่นบ้าง มีเจ้าไหนจะส่งประกวดมั้ยครับ?