นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า

        จึงปรับกลยุทธ์ เริ่มพรีแอปพรูฟเอกสารขออนุมัติสินเชื่อบ้าน และบางโครงการที่มีลูกค้าเยี่ยมชมโครงการสูง เช่น บ้านสัมมากร รังสิต คลอง 2 ลูกค้าต้องผ่านอนุมัติกู้ซื้อบ้านจากธนาคารก่อนจึงรับจองซื้อ ซึ่งกลยุทธ์ทั้งหมดทำให้รีเจ็กต์เรตของบริษัทลดเหลือ 18% ในครึ่งปีหลัง ตั้งเป้าหมายปี 2559 ลดเหลือ 10%

        "เป็นเป้าหมายที่ยากมาก แต่มองในมุมบวกคือปัจจุบันผู้ซื้อมีวินัยการออมสูงขึ้นแล้ว และภาระหนี้รถยนต์คันแรกจะเริ่มหมดลงปีนี้" นายกิตติพลกล่าวและว่า

        ทั้งนี้ ลูกค้าของสัมมากร 70% เป็นเจ้าของกิจการ และ 30% เป็นพนักงานมีรายได้ประจำ ซึ่งกลุ่มเจ้าของกิจการแบ่งเป็น กลุ่มเจ้าของกิจการขนาดใหญ่มีกำลังซื้อบ้านราคา 6 ล้านบาทขึ้นไปจะมีปัญหาน้อย ซื้อบ้านด้วยเงินสดถึง 20-30% ในขณะที่กลุ่มเอสเอ็มอีคนรุ่นใหม่ที่ซื้อบ้านราคาต่ำ 6 ล้านมีปัญหาสูงสุด

        นายกิตติพลเปิดเผยว่า แผนของสัมมากรปีนี้ จะเปิดตัว 3 โครงการ มูลค่า 4,400 ล้านบาท ได้แก่