ก้าวเข้าสู่ปี 2563 กันมาได้ซักพักแล้วนะ ต้องบอกว่าเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมานี้มีแต่ประเด็นที่ใหญ่และดูร้อนแรงทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโรคระบาด เหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและอเมริกา หรือ ภายในประเทศไทยเองก็มีทั้งเรื่องของฝุ่น และ การเมือง

 

        ซึ่งต้องบอกว่าเหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจภาคอสังหาเราเหมือนกันนะ แต่ในเรื่องร้าย ๆ ก็มีเรื่องดี ๆ อยู่นะเพราะล่าสุดพลัส ออกมาเผยผลสำรวจตลาดอสังหา พบหั่นราคาลงจากที่เปิดขายในช่วงแรก 7 – 15% เป็นโอกาสทองของนักลงทุนที่มีความพร้อมเข้าช็อปของถูก

 

        สถานการณ์การลงทุนในอสังหาตอนนี้ร้อนแรงลดลงเมื่อเทียบกับในอดีต จากหลาย ๆ ปัจจัยทั้งภาวะเศรษฐกิจ มาตรการ LTV ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เร่งระบายสินค้าเก่า ๆ ตามคาด กำลังซื้อภายในประเทศยังซบเซา รวมถึงปัจจัยจากลูกค้าชาวต่างชาติที่ชะลอลง ส่วนหนึ่งเนื่องจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และ ไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ระดับราคาคอนโดปรับลดลง ต่ำกว่าราคาช่วงที่เปิดขายในช่วงแรกราว 7-15% จึงเป็นจังหวะที่ดีสำหรับคนที่มีความพร้อม โดยเฉพาะนักลงทุนระยะยาว โอกาสในจังหวะนี้อยู่ที่ได้ห้องที่มีราคาถูกพร้อมสามารถปล่อยเช่าได้ทันที

 

        แม้ตลาดอสังหาจะซบเซาแต่ตลาดเช่ายังคงเติบโตให้ผลตอบแทนที่ดี โดยเฉพาะคอนโดที่ยังสร้างผลตอบแทนคุ้มค่า โดยพื้นที่กรุงเทพชั้นในที่มีผลตอบแทนการปล่อยเช่าเฉลี่ย 4.0% กรุงเทพชั้นกลาง 3.3% และกรุงเทพชั้นนอก 4.1% นอกจากนี้ จากการสำรวจพบว่า ปี 2560-2562 มีจำนวนคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จและเป็นโครงการที่ยังขายอยู่ในตลาดราว 405 โครงการ อุปทานสะสมอยู่ที่อยู่ที่ 215,479 ยูนิต ซึ่งลดลงจากปีก่อน เนื่องจากมีอุปทานดูดซับไปบ้างแล้ว ประกอบกับโครงการใหม่ที่เปิดขายในช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมายังสร้างไม่เสร็จ อย่างไรก็ตาม ในอนาคตคาดว่าจะมีห้องที่สร้างเสร็จจำนวนมากในปี 2563 - 2565 ราว 147,429 ยูนิต จาก 247 โครงการ กดดันให้ผู้ประกอบหลายรายเร่งระบายสินค้าในตลาด เห็นได้จากบางพื้นที่ปรับลดราคาลง โดยการจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย

 

        เอ้า ถือเป็นช่วงเวลาทองจริง ๆ แล้วแหละ ใครมีความพร้อม ช่วงนี้ต้องตวงกันเลยนะ แต่เท่าที่หมีตาม ๆ ดูก็มีหลายโครงการปรับลงมาไม่น้อยเลยทีเดียว ไหนใครเล็งโครงการอะไรไว้ เอามาเล่าสู่กันฟังได้นะ