ช่วงนี้ยิ้มแห้งเพราะต้องฝ่าแดดแรงๆ ไปนอกตัวเมือง

 

        ก็แหม...ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ผู้ประกอบการทั้งหลายเค้าหันมาเล่นแนวราบกันหลายเจ้าเลยน่ะสิ

 

        ความจริงก็ไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะเห็นๆ กันอยู่ว่าแนวสูงชะลอตัวมาพักนึงละ

 

        ไอ้เราก็ไม่ได้อะไรนัก เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบแนวราบมากกว่า นานๆ ทีได้ออกมาดูบ้านบ้างมันก็ช่วยให้กะปรี้กะเปร่าไม่น้อย

 

        ความจริงแนวราบตอนนี้อย่างที่บอกไปว่ามีหลายเจ้าลงเล่นเยอะ แต่ทำเลที่จิ้มเลือกก่อนเลยเห็นจะเป็น "บางนา"

 

        ช่วงปีสองปีมานี้โซนบางนาเค้าเจริญขึ้นผิดหูผิดตาเลยนะ สมัยก่อนถ้าพูดถึงบางนาคงนึกถึงทำเลชานเมืองที่มีแต่ที่ดินเปล่ากับโรงงานอุตสาหกรรม ให้คิดก็คงไม่ออกว่าจะไปแถวนั้นทำไม

 

        แต่เดี๋ยวนี้เค้าทรานส์ฟอร์มใหม่ ยกระดับมาเป็น HUB ของโครงการขนาดใหญ่ทั้งหลายที่เข้ามาปักหมุดกันเรื่อยๆ แล้ว แววความ "เจริญ" มันเลยตามมา

 

        แอบถาม "พี่แท็ก" มาเหมือนกันว่าโครงการโซนนี้ขึ้นเยอะมั้ย

 

        "พี่แท็ก" เองก็ตอบได้สมราคาจริงๆ รอบรู้ทุกตรอกซอกซอย บอกว่า "โอ๊ย ขึ้นกันเพียบอ่ะ โดยเฉพาะบ้านจัดสรร"

 

        ก็เออนะ สมกับเป็นโซนนี้ แถมใกล้สนามบินสุวรรณภูมิด้วย ไม่แปลกใจนักหรอก

 

        พอนั่งแท็กซี่เข้ามาโซนบางนา-กิ่งแก้วแล้วบอกตามตรงว่าป้ายโครงการแนวราบมีเยอะมากกกก (กอไก่หมดโลก) แต่ที่เด่นๆ หน่อยเห็นแปะตลอดทางคงจะเป็นโครงการที่จะไปกันวันนี้นี่แหละ

 

        แอ่นแอ๊นนน โครงการที่ว่าคือ "Centro บางนา – กิ่งแก้ว" จาก "พี่แอพ" นั่นเอง

 

        พูดมามากแล้ว ไม่รู้จะเวิ่นเว้ออะไรนักหนา เอาเป็นว่าเราไปดูรายละเอียดกันเลยว่าโครงการนี้เป็นหนึ่งในร้อยยย เธอคือดวงดาวที่คอยนำทางงงง ประจำโซนบางนา-กิ่งแก้วได้ยังไง

 

        - โครงการนี้ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่กิ่งแก้วตอนต้น (กิ่งแก้ว ซ.6) แค่ 1 กิโลเมตรก็ถึงถนนบางนา-ตราด

 

        - 10 นาที ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ และ Central Village ตัวโครงการแม้จะใกล้สนามบินแต่ไม่มีเสียงเครื่องบินรบกวนนะ อันนี้ตอนไปโครงการเห็นเครื่องบินบินอยู่เหนือหัวอยู่ แต่ไม่ได้ยินเสียงอะไร

 

        - 10 นาที ถึง Mega บางนา กับ IKEA ใกล้ เดอะพาซิโอ ลาดกระบัง จะไปตีกอล์ฟก็ได้เพราะขับรถ 7 นาทีก็ถึงสนามกอล์ฟวินด์มิลล์แล้ว

 

        - เรื่องอาหารการกิน ถ้าใกล้ๆ ตัวโครงการไม่นับว่าอุดมสมบูรณ์อะไร แต่ห่างออกไปนิดจะมีตลาดสดกิ่งแก้ว กับแม็คโครบางพลี สามารถหาซื้อของสดมาทำอาหารได้

 

        - น่าเสียดายหน่อยก็คือหาร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ ไม่ได้แฮะ ความจริงมันมี 7-Eleven ด้วยแหละ ห่างจากถนนหน้าโครงการประมาณ 600 เมตร แต่ข้อเสียคือกว่าจะเข้าไปด้านในโครงการมันลึกไปอีก เดินไม่ได้ ร้อนตับแตกแน่

 

        - "Centro บางนา – กิ่งแก้ว" เรียกได้ว่าเป็นโครงการบ้านเดี่ยวหมู่บ้านขนาดใหญ่เลยแหละ เพราะมีตั้ง 294 ยูนิต

 

        - ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 7-10 ล้านบาท แอบถามมาเห็นว่าขายได้ไปประมาณ 17 หลังแล้ว และเค้ายังไม่ได้แกรนด์โอเพนนิ่งนะจ๊ะ

 

        - ทางเข้าหมู่บ้านจะมีซุ้มโครงการสไตล์โมเดิร์น แล้วก็ใช้ระบบเข้า-ออกแบบ Easy Pass พร้อมด้วยพี่ รปภ. คอยดูแลความปลอดภัยตลอดเวลา

 

        - ถนนเมนกว้างมาก กว้างจริงๆ เป็นหนึ่งในส่วนที่ชอบของโครงการนี้เลย

 

        - เมื่อเข้ามาแล้วสิ่งแรกที่เจอจะเป็น Clubhouse อยู่ทางด้านซ้ายมือ ที่นี่เค้าสร้างแบบ 2 ชั้น มีสระว่ายน้ำ, Lobby, Co-working space, Fitness แล้วก็ Kids room

 

        - รู้สึกว่าห้องแต่ละห้องมันค่อนข้างน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับปริมาณยูนิตที่มีในโครงการ ที่เอ๊ะสุดน่าจะเป็นฟิตเนส เพราะเครื่องออกกำลังกายมีน้อยแบบนับชิ้นได้เลย เสียดาย

 

        - บ้านในโครงการนี้จะมีด้วยกัน 3 แบบ คือ SELENA, MADDISON และ LAYTON เรียงลำดับตามตัวอักษรก็คือไซส์ของบ้านนั่นแหละ ซึ่งก็คือ S, M, L

 

        - ในเรื่องของการออกแบบไม่ได้แตกต่างกันมากเลย แตกต่างแค่ตรงพื้นที่การใช้งานและฟังก์ชั่นในบ้านมากกว่า ถ้าเป็น S จะมีพื้นที่ใช้งาน 175 ตร.ม. M ก็ขยับมานิดเป็น 190 ตร.ม. สุดท้ายคือ L ที่กว้างกว่าเยอะคือ 225 ตร.ม.

 

        - ถามมาแล้ว บ้านที่ขายดีสุดก็คือ M

 

        - เท่าที่ดู ผมว่าโครงการนี้สิ่งที่ต้องให้เค้าเลยคือความ "ใหญ่" ความ "กว้าง" เพราะเข้าไปแล้วมันแบบ เออ อยู่สบายจริงๆ ไม่อึดอัดและดูมีความเป็นส่วนตัวดี

 

        - แบบบ้านทุกหลังสามารถจอดรถได้ 2 คันนะ

 

        - บ้านทุกแบบมี 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ยกเว้นบ้านไซส์ L ที่จะเป็น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำไปเลย

 

        - ตรงชั้นล่างเค้าออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นเหมือนกัน แตกต่างแค่ทิศทางการจัดวาง แต่ชั้นล่างมีห้องเพื่อผู้สูงอายุด้วย ขนาดใหญ่พอตัว แต่เอาจริง เห็นแล้วต่อให้ไม่สูงวัยแถมยังเอ๊าะๆ แบบผมยังอยากอยู่เลย หรือถ้าไม่มีผู้สูงอายุก็เปลี่ยนเป็นห้องสมุดขนาดย่อมก็เข้าท่านะ

 

        - ที่นี่เค้าให้ครัวปิดด้วย เป็นห้องครัวเล็กๆ ที่ไม่เหมาะกับคนเยอะๆ อารมณ์แบบถ้ายายทำอาหารอยู่แล้วเราจะเข้าไปช่วย ยายก็จะบอกว่า "ออกไป! เกะกะ" 5555

 

        - แต่พื้นที่ใกล้โต๊ะกินข้าวจะมีเคาน์เตอร์เล็กๆ ให้ ถัดไปเป็นโต๊ะกินข้าวที่ดูแล้วก็ยังมีพื้นที่เหลือให้เดิน ไม่คับแคบเกินไป

 

        - อย่างที่บอกว่ารูปแบบจะคล้ายๆ กัน แต่ถ้าเป็นไซส์ S พื้นที่ส่วนชั้น 2 จะไม่มีส่วนกลางให้ จะเป็นแค่ส่วนของห้องนอน 3 ห้องกับห้องน้ำ

 

        - แต่ถ้าเป็นบ้านแบบ M และ S พื้นที่ชั้น 2 เค้าจะให้ส่วนกลางมาด้วยเก๋ๆ แบบเดินขึ้นบันไดมาก็จะเจอเลย บ้านจริงจะเป็นการเว้นสเปซเอาไว้ให้เราไปจัดการเองว่าอยากจะ Adapt เป็นอะไร แต่การจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น หาเก้าอี้หาโต๊ะมาตั้งมันก็เข้าท่ากว่านั่นแหละ (ถ้าจะทำเป็นคอกเด็กเล็กก็ต้องจัดการกั้นให้ดี เพราะมันติดบันได เดี๋ยวเห็นอีกทีเด็กกลิ้งลงไปโน่นแล้ว)

 

        - ด้านบนจะมีห้องนอนเล็ก 2 ห้อง แล้วก็อีกหนึ่งจะเป็น Master Bedroom

 

        - ถ้าเป็นบ้านไซส์ L ห้องน้ำใน Master Bedroom จะมีอ่างอาบน้ำให้นอนแช่เพลินๆ แถมยังมี Walk-in Closet ด้วยจ้า

 

        - ห้องนอนแต่ละห้องขนาดค่อนข้างใหญ่ มีพื้นที่เหลือให้ทำโน่นทำนี่ แต่ชอบสุดคือระเบียง ระเบียงยาวมากแต่ไม่ได้กว้างอะไรนัก อย่างน้อยก็พอชดเชยได้

 

        - แต่พูดนิดเหอะ บ้านแต่ละหลังมันจะติดกันไปไหน 5555 คือหลังคาแทบจะเกยกันเชียว บ้านนี้ทะเลาะกันบ้านข้างๆ ชะโงกหน้ามาช่วยเถียงยังได้ ตรงนี้ขัดใจนิดๆ ถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวต้องเลือกไปอยู่โซนด้านหลังอ่ะ แต่ถ้าไปด้านหลังมันก็จะห่างจากซุ้มหน้าโครงการอีก ได้อย่างเสียอย่างนะตรงนี้

 

        โดยสรุป "Centro บางนา – กิ่งแก้ว" เป็นโครงการที่เหมาะสำหรับคนมีรถและไม่มายด์กับการต้องขยันขับรถออกไปซื้อของเข้าครัว เพราะแถวนี้ไม่ค่อยมีอะไรกิน ที่สำคัญแม้โครงการจะติดถนนใหญ่ แต่พื้นที่โซนที่เป็นที่อยู่อาศัยนั้นตั้งลึกเข้าไปด้านในโพ้นนน

 

        แต่ใครเดินทางบ่อยๆ นี่ชอบเลย เพราะใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ

 

        ตัวบ้านออกแบบมาดี กว้างขวาง อยู่สบาย มีฟังก์ชั่นใช้งานที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ที่สำคัญมีห้องนอนผู้สูงอายุ

 

        คลับเฮ้าส์น้อยไปหน่อย เครื่องออกกำลังกายมีไม่มาก ช่วงกินจุอยากลดน้ำหนักคงต้องออกไปอาศัยวิ่งรอบหมู่บ้านแทน

 

        ในช่วงเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย เงินทองก็แห้งเหือดหายไปจากกระเป๋าแบบนี้ ทางโครงการเค้ามีส่วนลดให้ 200,000 บาทเมื่อทำสัญญาภายใน 20 วันนะ

 

        เรื่องโปรโมชั่นส่งเสริมการขายก็เยอะ ฟรีหลายรายการเลยไม่ว่าจะจัดสวน, แทงค์น้ำและปั๊มน้ำ, Wallpaper ทั้งหลัง, สัญญาณกันขโมย, HOME Automation, ค่าโอน, ค่าส่วนกลาง 2 ปี, ค่ามิตเตอร์น้ำ-ไฟ แล้วก็ฟรีเครื่องปรับอากาศ 4 ห้องนอน แถมด้วย Voucher Home Pro แต่งบ้าน 50,000 บาท

 

        ลดแลกแจกแถมกันเต็มที่แบบนี้ก็ถือว่าเป็นโครงการที่น่าสนใจไม่เบา บอกไปตอนต้นแล้วว่าเค้ายังไม่ได้แกรนด์โอเพนนิ่ง ใครรีบร้อนก็ไปดูไปจองก่อนได้ตั้งแต่ตอนนี้เลยนะครับ