ถ้าพูดถึงย่านอนุสาวรีชัยสมรภูมิ แลนด์มาร์คจุดสำคัญของคนกรุงเทพแล้วล่ะก็ นอกจากการไปกินก๋วยเตี๋ยวอันเลื่องชื่อแล้ว สำหรับผมก็ต้องยกให้กับซอยรางน้ำที่ไม่เคยหลับไหล

 

        เพราะซอยนี้แม้จะเป็นซอยเล็ก ๆ แต่มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และโรงแรมมากมาย จนเป็นอีกจุดรวมตัวของชาวต่างชาติที่แวะเวียนกันมาไม่ขาดสาย

 

        จากการเจริญเติบโตของพื้นที่ในซอยนี้ทำให้บรรดานักพัฒนาโครงการต่าง ๆ ก็เริ่มมาให้ความสนใจและจับจองพื้นที่พัฒนาโครงการกันมากขึ้น

 

        รวมถึงน้องใหม่วงการอสังหาอย่าง "สิงห์ เอสเตท" ที่ขอประเดิมต้นปีด้วยการบุกทำเลใจกลางเมืองด้วยคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ล่าสุดของค่าย

 

         แม้จะมีการเข้ามาในวงการอสังหาไม่นาน แต่ด้วยคุณภาพและชื่อเสียงของพี่สิงห์แล้ว การบุกซอยรางน้ำในครั้งนี้ถือเป็นการวัดใจเพื่อแย่งชิงตลาดซอยรางน้ำอย่างแน่นอน

 

        และโครงการที่ผมจะพาเพื่อน ๆ ไปส่องกันในวันนี้ก็คือ "THE EXTRO Phayathai – Rangnam" (ดิ เอ็กซ์โทร พญาไท – รางน้ำ) นั่งเอง

 

        การเปิดตัวคอนโดมิเนียมบนพื้นที่สุดไพร์มของพี่สิงห์ครั้งนี้จะเป็นยังไง มาร่วมสำรวจทำเลและข้อมูลโครงการไปกับผมได้เลยย

 

        "THE EXTRO Phayathai – Rangnam" ตั้งอยู่ในทำเลจุดสำคัญของกรุงเทพอย่างอนุสาวรีชัยสมรภูมิ รายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลชื่อดังและมหาวิทยาลัยแพทย์

 

        ทำให้บริเวณนี้เป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์สูงแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่อุดมไปด้วยศูนย์การค้า Shopping Mall ร้านค้า ร้านอาหาร สวนสาธารณะ

 

        แถมยังสามารถเดินทางได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในระยะแค่ 400 เมตร หรือโครงการในอนาคต MRT รางน้ำ (สายสีส้ม) ก็แค่ 400 เมตรเท่ากัน

 

        ระยะ 400 เมตรนั้นถ้าใครที่ไม่ชอบเดินก็สบายใจได้ เพราะตลอดทั้งซอยรางน้ำนั้นมีวินมอเตอร์ไซค์ผ่านไปมาตลอดทั้งซอย

 

        ไม่ว่าจะไปป้ายรถเมล์ รถตู้ หรือรถไฟฟ้าก็สะดวกสบายทั้งนั้น ส่วนใครที่ชอบเดินก็ไม่ต้องกลัวเหงา เพราะซอยนี้คึกคักตลอดวันเลย

 

 

 

        นอกจากรถไฟฟ้าแล้วการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็ถือว่ามีความสะดวกสบายไม่แพ้กัน เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยรางน้ำ ซึ่งเป็นซอยที่วิ่งไปออกถนนใหญ่ได้หลายเส้น

 

        โดยตัวถนนเส้นหลักของซอยรางน้ำจะเชื่อมอยู่ระหว่างถนนพญาไทและราชปรารภ ส่วนถนนในซอยย่อยต่าง ๆ ภายในซอยรางน้ำจะสามารถวิ่งไปออกถนนราชวิถีและถนนศรีอยุธยาได้

 

        ซึ่งก็เป็นข้อดีตรงที่ไม่ต้องออกไปกลับรถบนถนนพญาไท เพราะจุดวนรถที่ใกล้ที่สุดก็อยู่ที่วงเวียนอนุสาวรีย์ชัยมรภูมิ และที่จุดตัดถนนศรีอยุธยา

 

        และใครที่เดินทางย่านนี้อยู่บ้างคงจะพอรู้กันว่า 2 จุดนั้นรถติดรถแน่นอยู่ตลอดเวลา ทางลัดย่อย ๆ ในซอยรางน้ำจึงถือเป็นอีกตัวเลือกที่ช่วยประหยัดเวลาได้อย่างดีเลย

 

        มาในเรื่องของปากท้องกันบ้างดีกว่า เพราะถือเป็นอีกจุดเด่นของทำเลย่านนี้เลยก็ว่าได้ (จริง ๆ แล้วผมเองก็หิวด้วย 555)

 

        จากที่ผมลองเดินสำรวจดูรอบ ๆ โครงการแล้ว ต้องบอกว่าอุดมสมบูรณ์มาก เนื่องจากบริเวณใกล้ ๆ กับโครงการมีห้างสรรพสินค้า ตลาด และร้านอาหารอยู่เพียบ

 

        ถ้าใครที่ชอบเดินห้าง หรือกินข้าวห้องแอร์ก็สามารถเดินหรือขึ้นวินไปได้หลายที่ ไม่ว่าจะเป็น Century Mall, Center One, Victory Mall และ Fashion Mall

 

        ส่วนใครที่สายสตรีท ชอบกินร้านริมทาง ยิ่งสบายไปใหญ่ เพราะตลอดทั้งซอยรางน้ำนั้นมีให้เลือกทุกรูปแบบ ส่วนใหญ่จะเปิดสายหน่อยประมาณ 10 โมงยาวไปจน 4-5 ทุ่มนู่นนน

 

        พอเริ่มค่ำหน่อยภายในซอยรางน้ำยังมีพวก Pub & Restaurant พวกร้างชิลล์ต่าง ๆ หลากหลายร้าน เรียกได้ว่าครึกครื้นตลอด 24 ชั่วโมงเลยก็ว่าได้

 

        จุดเด่นอีกอย่างที่ผมสะดุดตาก็คือร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven ที่เยอะจนล้นซอย เท่าที่ผมจำได้ก็ประมาณ 4-5 สาขาเลยทีเดียว นี่ไม่รวมแบรนด์อื่น ๆ อีกนะ

 

        นอกจากความอุดมสมบูรณ์ที่พูดมาทั้งหมดแล้ว ซอยรางน้ำยังมีอีกหนึ่งสถานที่สำคัญอย่าง "King Power" ที่เป็นแหล่งช้อปปลอดภาษีของสายช้อปทั้งหลาย

 

        ซึ่งถ้าใครที่ไม่ใช่สายช้อป ภายในเค้ายังมีโรงละครด้วยนะ ใครอยู่ซอยนี้ก็เดินไปดูละครเวทีหรือพวกงานต่าง ๆ ได้อย่างสบายเลย

 

        ยังไม่หมดแค่นั้น... ถ้าพูดถึงจุดพีคที่สุดของทำเลซอยรางน้ำแล้วล่ะก็ ผมขอยกให้กับ "สวนสันติภาพ" ที่อยู่ข้างโครงการเลย มีเพียงซอยเล็ก ๆ กั้นไว้แค่นั้น

 

        สำหรับคนเมืองอย่างพวกเราแล้วการที่มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กว่า 20 ไร่มาอยู่ข้าง ๆ บ้าน ถือเป็นความสุขที่ให้เราได้ทุก ๆ วันเลยทีเดียว

 

        สวนนี้เป็นที่ออกกำลังกายที่สำคัญของคนในย่านนี้เลยนะ โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่ตีห้าไปจนถึงสามทุ่ม ใครที่เบื่อ ๆ ก็ออกกำลังกายในคอนโดก็มาสูดอากาศบริสุทธิที่นี่กันได้








 

        เอาล่ะ... หลังจากที่เราไปสำรวจพื้นที่โดยรอบโครงการกันแล้ว ทีนี้เรามาดูข้อมูลโครงการกันบ้างดีกว่า

 

        "THE EXTRO Phayathai – Rangnam" เป็นคอนโดมิเนียม High Rise 33 ชั้น 1 อาคาร มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 411 ยูนิต

 

        รูปแบบห้องพักอาศัยมีให้เลือกหลัก ๆ ถึง 5 แบบ ในพื้นที่ตั้งแต่ 34.25 ไปจนถึง 111.75 ตารางเมตร ที่สำคัญมีห้องแบบ Duplex ด้วยนะ

 

        แนวคิดของโครงการออกแบบในสไตล์โมเดิร์นลักชัวรี่ พร้อมระบบหน้าต่างแบบจรดพื้นถึงฝ้า ที่ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าถึงพื้นที่ภายในได้อย่างเต็มที่

 

        เน้นพื้นที่ภายในให้มีโล่งสบายด้วยการให้ฝ้าเพดานสูง 2.85 เมตร สำหรับห้องแบบ Simplex และสูงถึง 6.15 เมตร ในห้องแบบ Duplex

 

        ซึ่งจากรูปแบบห้องหลัก ๆ ทั้ง 5 แบบนั้น ทางโครงการได้เลือกมาจัดเป็นห้องตัวอย่างให้เราได้ชมกัน 2 แบบ ได้แก่ 1 ห้องนอน 35 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน 55.25 ตารางเมตร

 

        ลืมบอกไปว่าทางโครงการขายแบบ Fully Fitted นะ ภายในห้องจริงจะได้แค่สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ และเฟอร์นิเจอร์ในห้องครัว ส่วนอื่นที่ตกแต่งในห้องตัวอย่างไม่ได้ให้เน้อ

 

        ส่องห้องตัวอย่าง : 1 ห้องนอน 35 ตารางเมตร

 

        สำหรับห้องตัวอย่างแบบแรกที่ทางโครงการจัดไว้ให้พวกเราได้ชมกันนั้นคือห้องรูปแบบ 1 ห้องนอน 35 ตารางเมตร

 

        เข้ามาส่วนแรกจะเจอกับพื้นที่ครัวแบบเปิดอยู่ทางด้านซ้ายมือ แต่มีการทำเป็นเคาท์เตอร์ออกมาเป็นโต๊ะกินข้าวไว้ด้วย ซึ่งส่วนนี้ช่วยให้แบ่งพื้นที่ระหว่างพื้นที่ครัวกับพื้นที่นั่งเล่นในส่วนต่อไปได้อย่างดี

 

        เท่าที่ผมดูจากพื้นที่จริงแล้ว ถ้าใครที่ชอบการทำอาหารแบบจริงจังก็สามารถติดตั้งชุดกระจกเพื่อมากั้นเป็นห้องครัวแบบปิดได้ ซึ่งจะช่วยให้ลดเรื่องกลิ่น และควันต่าง ๆ จากทำอาหารลง

 

        ถัดมาเป็นพื้นที่ส่วนนั่งเล่น ที่สามารถวางโซฟาขนาดย่อมประมาณ 2 ที่นั่งได้อย่างไม่อึดอัด และมีเคาท์เตอร์วางทีวีอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโซฟา

 

        จุดที่น่าสนใจก็คือระยะในการชมทีวีจากโซฟานั้นมีขนาดกว้างพอสมควร (ประมาณ 1.5 เมตร) ช่วยให้พื้นที่ส่วนนี้รู้สึกโล่งดีครับ

 

        ด้านข้างของจุดติ้งตั้งทีวีในพื้นที่นั่งเล่น จะเป็นประตูสำหรับเข้าสู่ห้องนอน ภายในมีเตียงขนาดใหญ่อยู่กลางห้อง และมีพื้นที่เดินโดยรอบประมาณ 0.6 เมตร

 

        ด้านซ้ายของเตียงเป็นกระจกบานสไลด์ขนาดใหญ่ ส่วนด้านขวาเป็นตู้เสื้อผ้า 2 บานสไลด์พร้อมกระจกเงา

 

        ถัดจากตู้เสื้อผ้าเป็นประตูเข้าไปสู่ห้องน้ำ ซึ่งภายในห้องน้ำยังมีประตูอีกบานออกไปสู่พื้นที่ครัวด้านนอก ช่วยให้ความเป็นส่วนตัวกับห้องนอนเวลามีแขกมากยิ่งขึ้น

 

        ภายในห้องน้ำมีการแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกและแห้งอย่างเป็นสัดส่วน โดยด้านในสุดจะเป็นพื้นที่ส่วนอาบน้ำที่มีการติดตั้งกระจกเพื่อแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนเปียกอย่างชัดเจน

 

        ส่วนพื้นที่ส่วนแห้งจะมีโถสุขภัณฑ์ และเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าขนาดใหญ่ มาพร้อมกับกระจกเงาครึ่งตัวเต็มพื้นที่ ทำให้ภายในห้องดูกว้างขวางขึ้น

 

        อีกจุดที่น่าสนใจของโครงการนี้คือการให้ระเบียงที่มีขนาดกว้างแบบได้ใจ ประมาณ 1.2 เมตร มาพร้อมกับกระจกบานสไลด์แบบชนเพดานที่หนักและหนามาก ช่วยในการเก็บเสียงได้เป็นอย่างดี

 

        นอกจากนี้ด้านหลังของประตูห้องยังมีพื้นที่ว่าง ที่ทางโครงการจัดไว้ให้ดูเลือกติดตั้งเป็นตู้เก็บของและตู้เก็บรองเท้า ซึ่งย้ำอีกทีว่าทางโครงการไม่ได้ให้นะ 555

 

        ส่องห้องตัวอย่าง : 2 ห้องนอน 55.25 ตารางเมตร

 

        มาต่อกันเลยสำหรับห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55.25 ตารางเมตร ส่วนตัวแล้วผมแอบชอบห้องนี้นะ เพราะมีการแบ่งพื้นที่ได้เป็นอย่างดีเลย

 

        เข้ามาส่วนแรกจะเจอกับพื้นที่ครัวอยู่ทางด้านขวามือเช่นเดียวกับห้องที่ผ่านมา แต่ที่แตกต่างคือเคาท์เตอร์ครัวของห้องนี้จะมีขนาดใหญ่กว่า

 

 

        นอกจากนี้ในส่วนของโต๊ะกินข้าว ห้องนี้จะมีการแยกออกไปวางบริเวณกลางพื้นที่ส่วนทำอาหาร ทำให้สามารถเดินรอบพื้นที่ได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น

 

        ที่สำคัญโต๊ะกินข้าวนี้สามารถวางโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งได้อย่างสบาย ๆ ไม่อึดอัด เพราะห้องมีพื้นที่กว้างขวางมากทีเดียว

 

        ถัดจากพื้นที่ครัวและโต๊ะกินข้าวจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น สามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งหรือแบบ L-Shape ได้อย่างสบาย ๆ

 

        ฝั่งตรงข้ามของโซฟาจะเป็นจุดติดตั้งทีวีที่มีระยะในการชมกว้างกว่า 2 เมตร ส่วนในสุดจะเป็นกระจกบานสไลด์เพื่อออกไปสู่พื้นที่ระเบียงด้านนอก

 

        ในส่วนของห้องนอนผมขอเริ่มจากห้องนอนเล็กก่อนละกัน โดยรวมแล้วพื้นที่ภายในจะมขนาดเล็กกว่าห้องนอนของห้องแบบ 1 ห้องนอนเล็กน้อย

 

        ทางด้านขวาของเตียงเป็นกระจกที่ออกแบบเป็นหน้าต่างแบบเต็มผนัง ส่วนทางด้านซ้ายของเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้าและทางเข้าสู่ห้องน้ำ

 

        ในส่วนของห้องน้ำห้องนี้จะเป็นห้องน้ำที่มีประตูอีกบานออกไปสู่พื้นที่ครัวด้านนอกได้ ภายในมีการแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งอย่างชัดเจนเช่นกัน

 

        จุดที่ผมชอบก็คือส่วนของเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าที่ทางโครงการออกแบบให้มีความยาวเต็มพื้นที่ ช่วยให้ได้พื้นที่ในการวางสิ่งของหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้อย่างจุใจ

 

        ด้านบนของเคาท์เตอร์เป็นกระจกเงาแบบครึ่งตัวที่ติดตั้งเต็มผนังอีกเช่นกัน ช่วยให้ภายในห้องน้ำดูกว้างขวางขึ้นไปอีก

 

        ต่อที่ห้องนอนอีกห้องที่มีลักษณะเป็น Master Bedroom ขนาดใหญ่ ส่วนที่แตกต่างกันก็คือห้องน้ำของห้องนอนนี้จะไม่มีประตูเข้าออกไปสู่พื้นที่ด้านได้

 

        เมื่อเข้ามาในห้องจะพบกับโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ตรงกับประตูทางเข้า ฝั่งซ้ายเป็นเตียงนอนขนาดใหญ่ ฝั่งขวาเป็นตู้เสื้อผ้าและทางเข้าสู่ห้องน้ำ

 

        ในส่วนของพื้นที่ห้องนอนห้องนี้นั้น จุดเด่นที่สำคัญก็คือการที่ทางโครงการเลือกออกแบบให้ผนังทั้งสองด้านเป็นกระจกเข้ามุม ช่วยให้เห็นวิวภายนอกได้อย่างเต็มที่ดีครับ

 

        ผนังกระจกด้านปลายเตียงนั้นสามารถวางเคาท์เตอร์เพื่อวางทีวีได้ แต่จะทำให้ระยะในการเดินนั้นเล็กลงมาหน่อย อันนี้แล้วแต่ความชอบของผู้อยู่เอง 55

 

 

        ต่อกันที่ห้องน้ำที่มีการแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งอย่างเป็นสัดส่วนเช่นกัน แต่ในส่วนของเคาท์เตอร์นั้นจะมีขนาดเล็กกว่าห้องน้ำอีกห้องนึงนะ

 

        ห้องรูปแบบ 2 ห้องนอน 55.25 ตารางเมตรนี้จะมีระเบียงอยู่จุดเดียวคือด้านข้างของโซฟาในพื้นที่ส่วนนั่งเล่นนะ

 

        ซึ่งระเบียงก็จะมีขนาดใหญ่เช่นเดียวกับห้องที่ผ่านมา พร้อมกับมีการติดตั้งระแนงบังสายตาเพื่อซ่อนคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้อย่างสวยงามเลย

 

        เป็นยังไงกันบ้างสำหรับโครงการ "THE EXTRO Phayathai – Rangnam" โครงการน้องใหม่ล่าสุดจากค่ายพี่สิงห์

 

        ส่วนตัวผมแล้วผมว่าเป็นบุกตลาดของกลุ่มเป้าหมายวัยสตาร์อัพมากขึ้น ต่างจากคอนโดแบรนด์ก่อนหน้าในค่ายที่มีการมุ่งเน้นไปที่กลุ่มกลางคนเป็นส่วนใหญ่

 

        สังเกตได้จากการออกแบบอาคารและรูปแบบห้อง ที่สัมผัสได้ถึงความหรูหราในแบบฉบับของวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ไม่ตามใคร เน้นการใช้ชีวิตแบบสมดุลหรือ work life balance นั่นเอง

 

        สำหรับเรื่องราคานั้นมีการเปิดตัวอยู่ที่ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 5.99 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ 235,000 บาท/ตารางเมตร

 

        เพื่อน ๆ คนไหนที่สนใจและอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถไปดูรายละเอียดในติดดอยพรีวิวได้ที่ คลิกที่นี่ 

 

        หรือถ้าใครอยากไปลองสัมผัสบรรยากาศของคอนโดสุดไฮฯ ในทำเลสุดไพร์มแบบนี้ก็สามารถแวะเวียนไปเยี่ยมชมกับได้ที่สำนักงานขายข้าง ๆ สวนสันติภาพเลยครับผมม