กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ "ซี.พี.แลนด์" ในเครือ "เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์" ก่อตั้ง 33 ปีเต็ม แต่มาเริ่มแตกไลน์พัฒนาอสังหาฯเต็มตัวเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา โดยมี "สุนทร อรุณานนท์ชัย" เป็นผู้กุมบังเหียน ประกาศแผนการลงทุน "3 ปี 3 หมื่นหน้า" ซึ่งปี 2559 เป็นโค้งสุดท้ายของแผน 

 

        ปรัชญาการลงทุนชัดเจน มีคำพูดติดปากอยู่เสมอว่า " กทม. เป็นเมืองหลวงของไทย แต่ไม่ใช่ประเทศไทย" นั่นทำให้การลงทุนของ "ซี.พี.แลนด์" กระจายตัวออกสู่ภูมิภาค โดยเฉพาะเมืองที่เล็งเห็นศักยภาพ เป็นทำเลเติบโตใหม่

 

         ปัจจุบันไลน์ธุรกิจมีทั้งอสังหาฯขายขาดคือ คอนโดมิเนียม-บ้านจัดสรร และอสังหาฯให้เช่า ได้แก่ สำนักงาน ศูนย์จัดแสดงสินค้า และนิคมอุตสาหกรรม ลงทุนไปแล้ว / หมื่นล้าน คาดว่าปีนี้จะลงทุนอีก 1 หมื่นล้าน ตั้งเป้าหมายคือ สัดส่วนรายได้มาอย่างคนละครึ่ง หรือ 50/50

 

         ปีนี้มองรายได้เพิ่มเท่าตัว อยู่ที่ 5,000-6,000 ล้านบาท เนื่องจากมียอดขายรอโอนหรือแบ๊กล็อคคอนโดฯกว่า 3,500 ล้านบาท 

 

         สำหรับแผนการลงทุนปีนี้ ได้แก่

 

         คอนโดฯ มี 8 โครงการ รวม 4,000 หน่วย มูลค่า 3,000 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 1.5 ล้านบาท/ยูนิต ยังคงเซ็กเมนต์เดิมเจาะลูกค้าระดับกลางล่าง มี 3 แบรนด์หลัก "กัลปพฤกษ์-ดรีม-เอส คอนโด"

         ลุยโรงแรมไซส์เล็ก ขนาดประมาณ 79 ห้องทั้งหมด  แบรนด์ "ฟอร์จูนดี" ตั้งเป้า 10 แห่ง คาดเปิดบริการปี 2560  

 

         ด้านสำนักงานให้เช่ามี 10 อาคารรวมพื้นที่ 8.5 หมื่นตารางเมตร (ไม่รวมซีพีทาวเวอร์) 

 

         โปรเจคไฮไลท์ยังรวมถึงศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้าที่ จ.ของแก่น บนที่ดิน 26 ไร่ คาดจะเปิดบริการปลายปี 60 ต่อไปจะปักหมุดที่ภาคใต้ ทำเลที่เป็นไปได้ เช่น นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี เป็นต้น

 

         แตกไลน์เพิ่มทำโลจิสติกส์ด้านนิคมอุตสาหกรรม ซี.พี. จ.ระยอง บนพื้นที่ 3,100 ไร่ แบ่งพัฒนาเป็น 4 เฟส โดยเฟสแรก 600 ไร่ ลงทุน 2,000 ล้าน อยู่ระหว่างขั้นตอนการขออนุมัติรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ถ้าเป็นไปตามแผนจะเริ่มสร้างโครงสร้างพื้นฐานภายในกลางปีนี้

 

         ส่วนการลงทุนในต่างประเทศ ให้ความสนใจอาเซียนเป็นพิเศษ อยู่ระหว่างการเจรจาเช่าพื้นที่สำนักงาน 6,000 ตรม.ในเมียนมา และศึกษาการลงทุนด้านอสังหาฯในเวียดนาม อีกทั้งมองตลาดยุโรปและออสเตรเลีย โฟกัสที่ประเทศกรีซ และประเทศที่แตกตัวออกจากสหภาพโซเวียต เน้นเทกโอเวอร์โรงแรมดีลละ 1-3 พันล้านบาท จากนั้นปรับปรุงเพิ่มภัตตาคารไทยดึงดูดลูกค้าคนไทยในแต่ละเมือง