หลังจากมีข่าวลุ่ม ๆ ดอน ๆ กันมาตั้งแต่ช่วงต้นปี หมีเองมีโอกาสได้ติดตามสถานการณ์บ่อยครั้งสำหรับเรื่องนโยบายเกี่ยวกับอสังหาของภาครัฐ ที่อาจจะเป็นอุปสรรคของผู้ซื้ออยู่บ้าง แต่หลังจากเห็นภาพรวมเศรษฐกิจของภาคอสังหาฯ ล่าสุดได้มีการเร่งให้รัฐบาลออกมาแก้ไขปัญหาแล้ว

 

        คุณวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยว่า ครม. เห็นชอบให้มีมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ สำหรับที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ด้วยการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลืออย่างละ 0.01% รวมถึงออกสินเชื่อดอกเบี้ย 2.5% คงที่ 3 ปี อีก 50,000 ล้านบาท ถือเป็นมาตรการที่ตอบโจทย์ได้ เพราะปัจจุบันที่อยู่อาศัยทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด คอนโดมิเนียมที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ถือเป็นกลุ่มใหญ่ที่เหลือค้างสต๊อกในตลาดมากถึง 50% ของที่อยู่อาศัยทั้งหมดในระบบ อีกทั้งยังช่วยให้คนที่อยากมีบ้านแต่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายการโอนซึ่งมีอยู่มากมีภาระลดลง ช่วยให้โอกาสมีบ้านได้ง่ายขึ้น

 

        ซึ่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาฯ ในช่วงระยะสั้นคนจะชะลอการโอนออกไปก่อนเพื่อรอจนกว่ากฎหมายจะมีผลบังคับใช้ขณะที่ฝั่งผู้ประกอบการจะหันมาจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายมากขึ้นเพื่อต้องการเร่งปิดยอดสิ้นปีนี้ให้ได้ตามเป้าหมายแต่มองว่าภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในปีนี้ยังน่าจะติดลบจากปีที่แล้วอยู่ อย่างไรก็ตามในปีหน้าน่าจะเห็นผลดีจากมาตรการต่อตลาดอสังหาฯ ซึ่งเดิมทีคาดว่าปีหน้าอาจติดลบที่ 5% แต่เมื่อมาตรการออกมาแล้วก็น่าจะพลิกกลับมาเป็นบวกได้เล็กน้อย

 

        แต่ก็ยังมีเรื่องน่าห่วงคือปัญหาผู้ต้องการซื้อบ้านแต่กู้ไม่ผ่านเนื่องจากธนาคารมีการเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ อีกทั้งมาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย ดังนั้นจึงอยากให้รัฐช่วยผ่อนปรนเงื่อนไขการปล่อยกู้ เช่น การตรวจดูประวัติหนี้เสียที่สั้นลงเหลือแค่ 1 ปี จากเดิมที่ดูย้อนหลังนานหลายปี

 

        งานนี้ใครอยากซื้อบ้านมีเฮเลยแหละ เพราะถือว่าเป็นข่าวดีอีกข่าวหนึ่งเลยสำหรับผู้ที่ต้องการกู้ซื้อบ้านเลยนะเนี้ยสำหรับ ครม. ที่ออกมา หมีมองว่าก็ถือเป็นการช่วยแก้ปัญหาได้ทั้งสองฝั่ง ทั้งผู็ซื้อและขายเลยทีเดียว