มาเดินต๊อกแต๊กแถวหอศิลป์ฯ สถานที่ที่หมีมาบ๊อยบ่อยเวลาไม่รู้จะไปสิงสถิตที่ไหนดีในวันหยุด รู้ๆ กันว่าในหอศิลป์ฯ หรือ Bangkok Art & Culture Centre นั้นนอกจากจะมีนิทรรศการศิลปะน่าสนใจผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาจัดแสดงแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่คนเค้าชอบกันก็คือบรรดาร้านรวงในหอศิลป์นั่นแหละคร้าบบบ

 

        หมีเองก็มีร้านประจำในหอศิลป์ฯ ที่ชอบไป แต่เป็นร้านขายงาน Art piece งาน Craft ต่างๆ มากกว่า พวกร้านกาแฟร้านไอศกรีมน่ะไม่เค๊ยไม่เคยเข้าสักหน จนกระทั่งเดินไปเดินมาแล้วเอะใจว่าตรงมุมหนึ่งที่ไม่ค่อยสะดุดตานั้นมีร้านอะไรบางอย่างน่าสนใจแฮะ เพราะมองแวบๆ แล้วเห็นอะไรลูกกลมๆ สีสันละลานตาเต็มไปหมด ทีแรกนึกว่าลูกกวาด พอเข้าไปส่องเข้าจริงๆ...คุณพระ ดันเป็นช็อกโกแลตเสียนี่!

 

        วันนี้หมีเลยอยากพาทุกคนมาทัวร์ร้านช็อกโกแลตเสียหน่อย เห็นว่าร้าน “PARADAi” แกเป็นร้านและโรงงานช็อกโกแลตสัญชาติไทยรางวัลระดับโลกที่ซ่อนตัวอยู่ในตึกแถวย่านพระนคร และตอนนี้มาเปิดสาขาในหอศิลป์ฯ หมีเองก็เป็นสายเข้มเสียด้วย รู้แบบนี้เลยต้องแวะกันสักนิดแล้วล่ะคุณ

 

 

 

        เปิดประตูเข้าไปตาของหมีนี่จับจ้องไปที่เจ้าลูกๆ หลากสีสันละลานตานั่นก่อนเลย สีสันแจ่มแจ๋วมากๆ ไม่จืดชืดเป็นหืดยักษ์ (คืออะไรหว่า พิมพ์เองก็ขำเอง 5555) แต่ราคาเค้าก็เอาเรื่องอยู่นะ แหะๆ

 

        ทีนี้หมีเลยหันไปดูเมนูน้ำๆ บ้าง เพราะที่นี่นอกจากจะขายช็อกโกแลตแล้วยังขายเครื่องดื่มด้วย ซึ่งเมนูก็มีครอบคลุมเลย อยากดื่มกาแฟก็มีกาแฟให้ดื่ม อยากดื่มชาก็มีชาให้ด้วย แต่แหม ร้านนี้หมีสืบรู้มาว่าเค้าเป็นร้านช็อกโกแลตแบรนด์ไทยที่คว้ารางวัลจากการประกวดเวที International Chocolate Awards 2018 มาทั้งที ไอ้เราก็ต้องสั่งอะไรที่เป็นช็อกโกแลตมาชิมสิน่า

 

 

        มองดูเมนูแล้วก็พบว่าเมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของเค้านั้นหนีไม่พ้น Signature Hot Chocolate กับ Signature Iced Chocolate และอีกหนึ่งเมนูที่น่าสนใจคือ Signature Hot Chocolate with Marshmello

        ราคาเครื่องดื่มถือว่าโอเคเลยนะถ้าเทียบกับพะยี่ห้อของเค้า ส่วนหน้าตานั้น...หื้มมม มองแล้วให้อารมณ์เหมือนนายหัวมาเอง เพราะดิบมาก เถื่อนมาก ทำไมถึงคิดงั้นเหรอ ให้ภาพมันฟ้องเอาเองแล้วกัน

 

 

 

        เดี๋ยวจะหาว่าพูดโม้กันเกินงาม แต่เอาจริงเหอะนะ ความเครื่องดื่มช็อกโกแลตน่ะ ร้านอื่นๆ เค้าแค่ขูดๆ ช็อกโกแลตมาตกแต่งหน่อยพอให้สวยงาม แต่ร้านนี้เล่นสับมาให้แบบหยาบๆ หนาๆ เลย แล้วไม่ใช่ลูกรักลูกชังใส่บ้างไม่ใส่บ้างนะ เพราะเค้าซอยให้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็นเลยเอ้า บอกแล้วไงว่าสายเข้มถูกใจสิ่งนี้!

 

        ส่วนรสชาตินั้นก็เข้มถูกใจกดไลค์เลย โดยเฉพาะเมนูร้อน ฟองนมด้านบนมันนัวมากๆ นิ่มๆ ละมุนๆ อยู่ในปาก ลองคนๆ ให้ช็อกโกแลตผสมรวมกันกับตัวเครื่องดื่มแล้วก็เข้มขึ้นไปอีก พอดื่มหมดแก้วจะเห็นก้อนช็อกโกแลตเล็กๆ น้อยๆ ตกตะกอนอยู่เลยแหละ ถือว่าผ่าน

 

 

 

        ตอนแรกว่าจะลองแค่เมนูเครื่องดื่ม แต่สีสันของเจ้า “Bon Bon” มันช่างยั่วตายั่วใจเหลือเกิน เราเองก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูน มาตั้งท่าสวยๆ เริ่ดๆ กันแบบนี้ตบะก็แตกเอาน่ะซี 555 ลงท้ายเลยเลือกมาลองสามชิ้นเพราะค่าตัวน้อง Bon Bon นั้นสำหรับหมีก็ถือว่าเอาเรื่องจริงๆ

 

        แต่จุดที่ยากที่สุดมันอยู่ตรงนี้แหละ ชีวิตของเราแน่นอนว่าต้องผ่านช่วงการตัดสินใจที่ยากลำบากมากันไม่น้อย นี่ก็นับว่าเป็นอีกครั้งในชีวิตของหมีที่เลือกยากเหลือเกิน ด้วยโควต้างบในกระเป๋าที่มีจำกัดจำเขี่ย แต่น้องนางหล่อนมีกันมากหน้าหลายตาจริงๆ เลยเกิดอาการ “รักพี่เสียดายน้อง” ขึ้นมา ไม่รู้ว่าจะเลือกชิ้นไหนมาชิมดี

 

 

 

 

 

        ดูๆ แล้วมีแต่รสชาติน่าลิ้มลองทั้งนั้น ไม่น่าเชื่อว่ามันจะมาเป็นหนึ่งเดียวกับช็อคโกแลตได้เนอะ แต่หลังจากผ่านการตัดสินใจกันมาอย่างยาวนาน สุดท้ายหมีก็ตัดสินใจเลือกทั้งสามชิ้นนี้มาชิม นั่นคือ Rose Tea สีสันสดใส Raspberry & Roselle สีสันอย่างกับกาแล็คซี่ และสุดท้าย Rum Raisin ที่เค้าบอกว่ามีแอลกอฮอล์ด้วย (ใครเลือกไม่ถูกถามพนักงานได้ว่าอยากได้รสชาติประมาณไหน เพราะพนักงานเค้าแนะนำดี)

 

        อยากจะเอาใจคุณผู้อ่านกันสักนิด พอถ่ายรูปลักษณ์ภายนอกของน้องแล้ว หมีเลยจัดการ “ชำแหละ” ให้เห็นกันถึงเนื้อใน เพราะตัว Bon Bon นั้นสอดไส้ไปด้วยรสชาติตามที่เราเลือก หน้าตาดีทีเดียวนะเนี่ย ส่วนรสชาติก็เยี่ยมแฮะ ตัวรัมนี่อร่อยไม่น้อย กุหลาบก็หอมมากๆ เวลาอยู่ในปาก แต่ที่หมีชอบที่สุดคือเจ้าราสพ์เบอรี่กระเจี๊ยบ เพราะมันเปรี้ยวๆ หวานๆ รสชาติดีงามจริงๆ แต่กินแต่น้อยพอนะ ไม่งั้นเลี่ยนแย่

 

 

 

        อ้อ! หมีลืมบอกไปว่าที่ร้านเค้ามีแบบบาร์ให้ชิมด้วย ซึ่งแน่นอนว่างานนี้ทางร้านเค้าคราฟต์เอง ใครสนใจก็สามารถซื้อกลับบ้านหรือซื้อไปเป็นของฝากก็เข้าที เพราะหีบห่อสวยงามน่ารักมาก ครุคริ มีความคิ้วท์ๆ

 

 

 

 

        เอาเป็นว่าใครสนใจแวะไปได้ที่หอศิลป์ฯ ความจริงเค้ามีสาขาแรกอยู่ที่ถนนตะนาว ใกล้สี่แยกคอกวัว ราชดำเนิน แต่สาขาที่หอศิลป์นี้เพิ่งมาเปิดและน่าจะเดินทางสะดวกกว่าที่แรกด้วยเพราะลง BTS สนามกีฬาฯ แล้วก็สามารถเดินเข้าหอศิลป์ฯ ได้เลย

 

        ส่วนเวลาเปิดปิดนั้นก็ตามนี้จ้า คือ วันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 11:00 น - 20:00 น. หยุดวันจันทร์เพราะหอศิลป์ฯ ปิดทุกวันจันทร์นะ ใครอย่ามึนมาวันจันทร์ล่ะ ไม่งั้นชวดแน่ๆ

 

 

 

        ส่วนร้านก็จะตั้งอยู่ชั้น 3 ของหอศิลป์ ชั้นเดียวกับชั้นที่เชื่อม BTS เลย ถัดจากบันไดเลื่อนไปหน่อย ร้านจะหลบมุมอยู่นิดๆ ถ้าไม่สังเกตก็จะมองเลยผ่านไป แต่ถ้าสังเกตเห็นเมื่อไรเป็นโดนตกเมื่อนั้น เชื่อหมีสิ เพราะหมีโดนมาแล้ววว