เพราะการขยายตัวจากใจกลางเมืองนี้เองที่ทำให้ ย่านบางกะปิ-รามคำแหงเป็นทำเลศักยภาพแห่งใหม่ที่มีการขยายตัวของโครงการพัฒนาอาคารชุดพักอาศัยที่น่าสนใจมาก

 

        เรื่องนี้ นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่าเป็นเพราะมีปัจจัยสนับสนุนพื้นที่บริเวณนี้จากการลงทุนพัฒนาในระบบโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล พูดง่ายๆ คือมีโครงการรถไฟฟ้าถึง 3 สาย คือสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์), สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และเส้นทางเดินรถของรถไฟแอร์พอร์ตลิ้งที่สถานีรามคำแหงนี่เอง มันเลยง๊ายง่ายที่คนทำงานทั้งหลายจะเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิหรือมักกะสัน พญาไท ได้ไม่ยาก

 

        ผลวิจัยของ ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย ยังระบุด้วยว่า จำนวนอุปทานคอนโดฯ บริเวณรามคำแหงกลางปี พ.ศ. 2562 มี 14,750 หน่วย มีอุปทานใหม่เกิดขึ้นมากตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 เพราะผู้ประกอบการหันมาซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการกันเยอะ และยังคาดกันด้วยว่าปี พ.ศ. 2562 จะมีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในบริเวณนี้สูงถึง 6,000 หน่วย

 

        ตอนนี้เองก็กลางปี พ.ศ. 2562 แล้ว คอนโดฯ บริเวณรามคำแหงเองก็มีจำนวนหน่วยขายสะสมสูงถึง 12,370 หน่วย จากจำนวนคอนโดฯ ที่เปิดขายทั้งสิ้น 14,750 หน่วย คิดเป็นอัตราการขายที่ร้อยละ 83.9 มีเหลือขายประมาณ 2,380 หน่วย ผู้ซื้อเองก็มีทั้งไทยเทศ โดยเฉพาะชาวจีนและชาวสิงคโปร์

 

        พูดถึงในเรื่องของราคาเองก็เป็นราคาที่จับต้องได้ กลุ่มผู้ซื้อที่เป็นคนไทยเองก็มีซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองบ้าง และบางส่วนก็ซื้อไว้เพื่อเก็บเป็นทรัพย์สินเหมือนกัน และแน่นอนว่าในอนาคตราคาแถบนี้ก็น่าจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างที่พอจะคาดได้แหละครับผม

 

        นอกจากนี้ผลวิจัยของ ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย ยังพูดถึงระดับราคาขายคอนโดฯ บริเวณรามคำแหงด้วยว่า กลางปี พ.ศ. 2562 ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมเกรดบี มีระดับราคาขายอยู่ที่ 98,323 บาท/ตารางเมตร ปรับตัวขึ้นจากปี พ.ศ. 2557 ซึ่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 74,292 บาท/ตารางเมตร ซึ่งถือว่าปรับตัวสูงมาก!

 

        ส่วนระดับราคาขายเฉลี่ยคอนโดฯ เกรดซีในบริเวณนี้ ช่วงกลางปี พ.ศ. 2562 มีระดับราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 63,705 บาท/ตารางเมตร ปรับตัวขึ้นจากปี พ.ศ. 2557 ซึ่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 53,402 บาท/ตารางเมตร เห็นแบบนี้อยากรอดูช่วงปีหน้าจังเลย หมีว่าน่าจะสนุกสนานไม่เบา