หลังจากที่ทุนอสังหาเจ้าใหญ่จากประเทศจีนอย่าง "คิง ไว กรุ๊ป” ได้ทำการเทกโอเวอร์ "บริษัท เคปเปล ไทย พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)" ตั้งแต่ปี 2559 พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น "บริษัท คิง ไว กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)" หรือ KWG พบว่าราคาหุ้นก็ถดถอยมาโดยตลอด ซึ่งก็สวนทางกับสินทรัพย์และส่วนทุนที่เพิ่มขึ้นมาก กระทั่งวันนี้ราคาหุ้นของ KWG ซึ่งอยู่ที่ 1.49 บาท ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (บุ๊กแวลู) ที่ 2.23 บาทต่อหุ้น ค่อนข้างมาก

ถึงแม้ว่าบริษัทสามารถสร้างกำไรได้ตลอดปี 2559- 2561 อยู่ที่ 60.77 ล้านบาท 69.69 ล้านบาท และ 32.26 ล้านบาทตามลำดับ ก็ยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจ เมื่อกำไรรายไตรมาสไม่ได้สม่ำเสมอและมักมีการขาดทุนหนักๆ ให้เห็น เรื่อยๆ โดยไตรมาส 1/2562 ขาดทุนราว 159.92 ล้านบาท

 

        กลุ่ม "คิง ไว กรุ๊ป" คือ เครือธุรกิจชั้นนำของโลกมีฐานที่ตั้งในฮ่องกง และมีชื่อเสียงในจีน มีประวัติการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ประสบความสำเร็จยาวนานกว่า 30 ปี KWG เผยว่า การขยายฐานมาที่ประเทศไทยนับเป็นกลยุทธ์หนึ่งในการเปิดประตูอาเซียน ซึ่งแนวคิดของบริษัทต้องการที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน ไม่ใช่ฉาบฉวย ดังนั้น ในนโยบายการทำงานจึงเน้นไปที่การสร้างฐาน กว้านซื้อที่ดินตลอด ซึ่งการขาดทุนที่ผ่านมาก็เป็นเพราะว่าบริษัทได้เข้ามาสะสมที่ดินตลอด 3 ปี ที่เข้ามา จากที่ดินที่มีอยู่ 200 ไร่ ปัจจุบันมีสูงถึง 6,000 ไร่

        ปัจจุบันบริษัทมีที่ดินขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพ 2 แห่งที่มีศักยภาพคือ ที่ดินที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 2,605 ไร่ และที่ดิน เออีซี จังหวัดฉะเชิงเทรา 1,997.2 ไร่ ซึ่งที่ดินทั้ง 2 แห่ง เป็นพื้นที่สำคัญที่จะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้ในระยะยาว ซึ่งการที่ดินอยู่ห่างไกลจากสนามบินไม่มากจึงทำให้ดีมานด์สูง โดยเบื้องต้นจะมีการร่วมมือกับพันธมิตรต่างชาติในการพัฒนา "โรงเรียนมหาวิทยาลัยนานาชาติ" "ศูนย์กลางสุขภาพ เมดิเคิลเซ็นเตอร์" และ "ธีมปาร์คท่องเที่ยว" ในพื้นที่ โดยจะมีการดำเนินการพร้อมกันและมีการต่อยอดพื้นที่รวม 2 พันไร่ไปเรื่อยๆ

 

        อย่างไรก็ตามบริษัทก็ยังมีโครงการขนาดเล็กอยู่ เพื่อขาย เพื่อที่จะรับรู้รายได้ในช่วงนี้ และโครงการวิลล่าอะคาเดีย วัชรพล จำนวน 72 ไร่ ซึ่งจะรับรู้รายได้ทันที และมี 2 โครงการคอนโดมีเนียม คือ โครงการคอนโดแนวราบ บริเวณซอยสุขุมวิท 61 พื้นที่ดิน 1-1-98 ไร่ และโครงการคอนโดแนวสูง บริเวณสามย่าน จามจุรีสแควร์ พื้นที่ดิน 0-3-4 ไร่ พร้อมกันนี้บริษัทก็ยังพร้อมหาแนวทางการขยายธุรกิจหรือลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงให้เห็นว่าการเข้ามาเพื่อเป็นการลงทุนระยะยาวและต่อเนื่อง