โอฮาโย โกไซมาซึ คอนนิจิวะ คอมบังวะ!!! ทักทายภาษาญี่ปุ่นแบบนี้ เพื่อนๆคงสงสัยกันล่ะสิว่า เจ้าหมีติดดอยตัวนี้จะมาไม้ไหนกันนะ?

        เอาล่ะๆ ไม่ได้จะมาไม้ไหนทั้งนั้น สาเหตุที่มาทักทายเพื่อนๆเป็นภาษาญี่ปุ่นอย่างนี้ ก็เพราะว่าอยากทำตัวให้เข้ากับงานที่พี่หมีแอบแว๊บไปชมโครงการของเค้ามาน่ะสิ โครงการที่พี่หมีพูดถึงอยู่นี้ก็คือ โครงการ "บ้านนวัตกรรมอากาศบริสุทธิ์" ที่พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และ เซกิซุย เคมิคอล (เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศญี่ปุ่น) ซึ่งทั้งสองบริษัทนี้ได้ร่วมมือกัน!! (นั่นแน่ พอจะรู้กันหรือยังเอ่ย ว่าพี่หมีทักทายเพื่อนๆเป็นภาษาญี่ปุ่นทำไม) โดยความน่าสนใจของโครงการนี้ไม่ได้มีเพียงแต่การจับมือกันของสองบริษัทเท่านั้นนะ!! เอาล่ะ อย่ารอช้า เลื่อนเม้าส์ หรือ สไลด์หน้าจอลงไปอ่านข้างล่างกันโลด

        - แน่นอนว่าเป็นการจับมือทำงานร่วมกันถึงสองบริษัทแบบนี้ เค้าก็ต้องมีหมัดเด็ดอยู่แล้ว เพราะโครงการนี้เค้าล้ำหน้าด้วยนวัตกรรมการอยู่อาศัยและเทคโนโลยีการก่อสร้างระบบโมดูลาร์ ภายใต้มาตรฐานญี่ปุ่น เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มบ้านระดับบน ในโครงการเพอร์เฟคมาสเตอร์พีซจำนวน 4 โครงการ ได้แก่ กรุงเทพกรีฑา , รามคำแหง , แจ้งวัฒนะ และ รัตนาธิเบศร์ และ อีกหนึ่งโครงการที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆนี้คือ สุขุมวิท 77

        - ใช้ระบบ Air Factory System หรือระบบหมุนเวียนอากาศและไส้กรอง 3 ชั้น ที่สามารถดักจับฝุ่นขนาด 0.3 ไมครอน ซึ่งเล็กกว่า PM 2.5 ที่เราคุ้นเคยกันดี (เพราะว่าเจอไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา) เพราะฉะนั้นถ้ามีเจ้าตัวเทคโนโลยี Air Factory System ในบ้านของเราแล้ว ก็หายห่วงไปเลยนอกจากจะช่วยกันฝุ่นให้เราแล้ว เค้ายังช่วยปรับอุณหภูมิให้บ้านเย็นสบายอยู่เสมอ ด้วย Heat Exchanger แถมยังช่วยลดการใช้ไฟฟ้าและประหยัดพลังงานอีกด้วย

        - Air Tightness System แปลเป็นไทยง่ายๆก็คือ ไร้รอยต่อนั่นเอง ซึ่งทางโครงการได้ออกแบบให้บ้านไร้รอยต่อด้วยการซีลจุดเชื่อมต่อและช่องต่างๆของบ้านอย่างสนิท ด้วยวัสดุปิดรอยต่อหายห่วงปัญหาเรื่อง แมลง ฝุ่น เสียง และ กลิ่น

        - มีThermal Insulated System หรือ ระบบฉนวนกันความร้อน 3 ชั้นที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อน และ Sound Insulated System หรือ ระบบผนังป้องกันเสียง ที่ความพิเศษอยู่ตรงที่จะได้ยินเสียงเบากว่าบ้านทั่วๆไปถึง 10 เดซิเบล เลยนะนอกจากนี้เค้ายังเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานแแถมยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ใช้สีที่มีคุณสมบัติทำความสะอาดตัวเองได้ หรือ ใช้โครงสร้างจากเหล็กที่แข็งแรงและสามารถป้องกันแผ่นดินไหวได้ด้วย!!

        - Floor Service อันนี้พิเศษมากๆ ถือว่าเป็นไอไลท์ได้เลยนะ เพราะไอเจ้า Floor Service ของเค้าก็คือช่องว่างที่อยู่ใต้บ้าน ต้องบอกก่อนว่า เวลาเราไปซื้อบ้านเนี้ย เราก็จะได้บ้านเปล่าๆ บนพื้นดินกันใช่ไหมล่ะ แต่โครงการนี้มันพิเศษตรงที่ด้านล่างของตัวบ้านจะมีช่องว่าง ซึ่งช่องว่างตรงนี้แหละจะช่วยลดความเสียหายถ้าเกิดกรณีน้ำท่วม สามารถป้องกันการแตกร้าว และการทรุดตัวของบ้าน และที่สำคัญเลยก็คือ มันยังสะดวกสบายต่อการเข้าไปบำรุงระบบไฟฟ้า ประปา หรือสุขาภิบาลต่างๆ ไม่จำเป็นต้องทุบพื้นเลยล่ะ

        - นอกจากนี้ การออกแบบบ้านยังได้ผสมผสานสไตล์ไทยและญี่ปุ่นเข้าไว้ด้วยกัน จากการสอดแทรกดีไซน์ต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น พื้นต่างระดับบริเวณโถงทางเข้าหรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกกันว่าเก็งคัง จุดถอดรองเท้าเพื่อให้ส่วนของที่อยู่อาศัยไม่เปื้อน อีกทั้งยังได้มีการปรับเปลี่ยนบางฟังก์ชั่นให้ตอบโจทย์สังคมในยุคปัจจุบันอีกด้วย เช่น การออกแบบห้องนอนตรงชั้นล่างให้มีขนาดใหญ่เพื่อรองรับผู้สูงอายุ หรือพื้นห้องนอนแบบ Soft Surface Flooring ช่วยลดแรงกระแทกถ้าเกิดเราหกล้ม และ Hand Facilities ประตูห้องน้ำขนาดกว้าง ห้องน้ำไม่มีธรณีประตู และ ไม่เป็นพื้นต่างระดับ เพื่อรองรับให้รถเข็นสามารถผ่านเข้าออกได้อย่างสะดวกด้วยแหละ

 

        - มาดูรูปแบบบ้านกันบ้างดีกว่า โครงการนี้จะประกอบไปด้วยบ้านจำนวน 3 รูปแบบ คือ Empire ขนาด 170 ตร.ว. ราคาเริ่มต้นที่ 45 ล้านบาท แบบที่ 2 Emreror ขนาด 150 ตร.ว. ราคาเริ่มต้นที่ 40 ล้านบาท โดยที่บ้านทั้งสองแบบนี้จะมีจำนวนห้องนอน 5 ห้อง และห้องน้ำ 6 ห้องเหมือนกันเลย และรูปแบบสุดท้าย Empress ขนาด 137 ตร.ว. ราคาเริ่มต้นที่ 35 ล้านบาท ประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน
และ 5 ห้องน้ำ โดยที่บ้านทุกรูปแบบจะมีฟังก์ชั่นที่กล่าวไว้ข้างต้น ครบทุกหลังอีกด้วย