Maestro 03 เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร อาคารละประมาณ 100 ยูนิต เศษๆ รวมๆ ก็ 300 กว่ายูนิต ซึ่งการขายรอบนี้ของ Maestro นั้นเป็นการขายแบบ Fully-furnished คือให้ทุกอย่าง (ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้า) เรียกว่า “เกือบพร้อมอยู่ได้เลย”

        อย่างที่เคยเกริ่นไว้คร่าวๆ แล้ว Maestro ทั้ง 2 โครงการที่เปิด (รวมถึง Maestro 14 สยาม-ราชเทวี) จะเปิดขายให้คนไทยเฉพาะชั้น 1-5 โดยชั้น 6-8 จะนำไปขายต่างประเทศ เช่น ฮ่องกง, สิงคโปร์ ฯลฯ โดยราคาจะสูงกว่าขายในเมืองไทย 20% ที่สำคัญได้ยินข่าวว่า Maestro 14 ขายหมดแล้ว!!! (ไม่ยืนยันนะครับ 555)

        ทำเลของ Maestro 03 นั้นจริงๆ ค่อนข้างไกลจาก MRT พระรามเก้า พอสมควร ระยะทางประมาณ 600 เมตร (ซึ่งรวมถึงการเดินเข้าซอยรัชดาฯ 3 ไป 200 เมตร) ซึ่งผมว่า”เดินเหนื่อย” ถึงขั้น “ไม่อยากเดิน”

        โอเคว่าบริเวณโดยรอบถือว่า “คึกคัก” ทั้ง Fortune, Central พระรามเก้า หรือแม้แต่ในซอย 3 เอง ก็ของกินไม่ขาดมือ แต่ราคาที่เปิดออกมาจะสอดคล้องกับทำเลขนาดไหน? เพราะต้องยอมรับว่าที่อยู่อาศัยในซอยฯ 3 นั้น “ไม่แพง” และตัวเลขที่ออกอยู่ที่ 12x,xxx บาท/ตร.ม. ครับ

        (ขออนุญาตโปรโมตร้านอาหารที่อยู่ใน ซอยรัชดาฯ 3 “สลัดบุรี” ซึ่งเป็นร้านสลัดและกาแฟของ “พี่หยุ่น” พี่ชายใจดีที่ใช้ใจทำทั้ง “สลัด” และ “กาแฟ” ที่อร่อยและมีคุณภาพมากๆ ครับ) https://www.wongnai.com/restaurants/185989Un-saladburi

        อันนี้ต้องคำนึงถึง Fully-furnished ด้วย ราคาห้องเปล่าอาจจะลดไปประมาณ 15,000 – 20,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งก็เท่ากับ 10x,xxx บาท/ตร.ม.

        ผมเองเป็นคนหนึ่งที่ชอบคอนโด Low Rise นะครับ ชอบความกะทัดรัด และดูเหมือนจะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าเล็กน้อย

 

        อย่างไรก็ตาม เรามาว่ากันตาม “ตัวเลข” ผมไม่คิดว่าผลตอบแทนจากค่าเช่าจะคุ้มค่า อย่างห้อง 29 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องที่เล็กที่สุด ราคา 3.6 ล้าน ต้องการค่าเช่า 18,000 บาท/เดือน ผมไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ (ในอนาคตผมไม่ทราบนะ แต่ก็คิดว่าคงจะยาก)

        ในแง่เล่นสั้นตัดไปได้เลย ส่วนมูลค่าระยะยาวก็ไม่แน่ เพราะมีการเอาไปขายต่างประเทศที่บวกราคาไป 20% อาจจะเป็นผลในแง่บวกกับห้องที่เหลือก็เป็นได้ เพราะอย่าลืมเรื่อง “สถานฑูตจีน” นะครับ

        สุดท้ายแล้ว ถ้าให้ผมแนะนำ ก็คงต้องบอกว่าถ้าอยากจะอยู่อาศัยเองก็เป็นคอนโดที่น่าอยู่และสิ่งอำนวยความสะดวกและอาหารการกินสมบูรณ์พูลสุขครับ