
จากตอนที่แล้ว เราได้รู้จักกับสินทรัพย์ทางการเงินกันไปแล้ว 4 ประเภท ได้แก่ เงินฝาก กองทุนรวมตลาดเงิน พันธบัตรและหุ้นกู้ เรียงจากความเสี่ยงต่ำไปถึงความเสี่ยงสูง ตอนนี้เราจะมาทำความรู้จักกับอีก 2 ประเภทที่เป็นการลงทุนที่สำคัญ (รายละเอียดจึงค่อนข้างเยอะ) ดังนี้

5. ตราสารทุน
ตราสารทุน (Equity Instruments) คือ ตราสารที่กิจการออกให้แก่ผู้ถือ (Holder) เพื่อระดมเงินทุนไปใช้ในกิจการ โดยผู้ถือตราสารทุนจะมีฐานะเป็น ‘เจ้าของกิจการ’ รวมทั้งมีส่วนได้เสีย หรือมีสิทธิในทรัพย์สินและรายได้ของกิจการ และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนในรูปของ ‘เงินปันผล (Dividend)’ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีข้อผูกมัดหรือข้อผูกพันว่า กิจการที่ออกตราสารทุนจะต้องจ่ายเงินปันผลเสมอไป ทั้งนี้การตัดสินใจว่าจะจ่ายเงินปันผลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผลกำไร และข้อตกลงของธุรกิจนั้นๆ ว่ามีนโยบายจ่ายเงินปันผลเป็นอย่างไร โดยตราสารทุนที่เป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมลงทุนของนักลงทุน คือ หุ้นสามัญ (Common Stock) และหน่วยลงทุน (Unit Trust) ค่ะ
การลงทุนในหุ้นสามัญ ส่วนใหญ่จะลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (The Stock Exchange of Thailand: SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (Market for Alternative Investment – mai) ส่วนผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนในหุ้นสามัญจะมี 2 ส่วน คือ
ระดับความเสี่ยงของการลงทุนในตราสารทุนจะอยูที่ระดับ 6 ซึ่งความเสี่ยงแรกๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการลงทุนในหุ้นสามัญเลยก็คือ ความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ตนคาดการณ์ไว้ ซึ่งอาจเกิดจากความเสี่ยงทางธุรกิจและความเสี่ยงทางการเงินของกิจการที่เราไปลงทุน
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของสินทรัพย์ประเภทนี้ คือ ความเสี่ยงสูง และมีโอกาสที่จะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวังไว้ และนอกจากนี้ อาจมีโอกาสที่จะสูญเสียเงินต้นด้วย หากตัดสินใจลงทุนแล้วผิดพลาดจากการลงทุน
6. กองทุนผสม
คุณอาจจะประหลาดใจว่าทำไมนิถึงพูดถึงการลงทุนในตราสารทุน ซึ่งมีความเสี่ยงอยู่ในระดับ 6 ก่อนที่จะพูดถึงการลงทุนในกองทุนผสม ที่มีระดับความเสี่ยงอยู่ในระดับ 5 นั่นก็เป็นเพราะว่า นิอยากที่จะให้คุณรู้จักการลงทุนในตราสารประเภทต่างๆ แบบ 100% ก่อน และเมื่อคุณรู้จักสินค้าทางการเงิน ทั้งประเภทตราสารเงิน ตราสารหนี้และตราสารทุนแล้ว การลงทุนในกองทุนผสมก็ไม่ใช่เรื่องยากค่ะ งั้นเรามาทำความรู้จักกับกองทุนผสมกันเลยค่ะ
กองทุนผสม (Mixed Fund) เป็นกองทุนที่มีการกระจายการลงทุนในหลักทรัพย์หลายประเภท เช่น ตราสารเงิน ตราสารหนี้ ตราสารทุน และตราสารอนุพันธ์ ในสัดส่วนการลงทุนที่แหมาะสม (Asset Allocation) กับภาวะการลงทุนในแต่ละช่วง หรืออยู่ในกรอบที่นโยบายการลงทุนกำหนด โดยมีรูปแบบการลงทุนที่หลากหลายขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของกองทุนและดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
เพราะกองทุนรวมนั้นนำเงินของผู้ลงทุนหลาย ๆ รายมารวมกันแล้วไปลงทุนในกลุ่มหลักทรัพย์ที่ต่างประเภทกันหลาย ๆ ตัว (investment portfolio) จึงเป็นการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งหากคุณลงทุนด้วยตัวเอง ก็อาจมีข้อจำกัดด้านจำนวนเงินที่ทำให้ลงทุนในหลักทรัพย์ได้เพียงไม่กี่ตัวผลตอบแทนที่ได้ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของกองทุนที่ลงทุนค่ะ
อย่างไรก็ตามข้อเสียของสินทรัพย์ประเภทนี้ คือ ผลตอบแทนจากการลงทุนต้องหักค่าใช้จ่ายในการบริหารก่อน มีความเสี่ยง เนื่องจากมีสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนด้วยค่ะ
เอาล่ะค่ะ เราก็รู้จักสินทรัพย์การเงินกันมา 6 ประเภทแล้วนะคะ ตอนหน้าซึ่งเป็นตอนจบของซีรีย์มาทำความรู้จักกับสินทรัพย์ทางการเงินกันเถอะ นิจะพูดถึงสินทรัพย์การเงิน 2 ประเภทสุดท้าย จะเป็นอะไร ต้องมาติดตามค่ะ
ผู้เขียน นิภาพันธ์ พูนเสถียรทรัพย์ CFP
นักวางแผนการเงินอิสระ วิทยากร และนักเขียน