ในที่สุดก็ได้มีโอกาสเข้าไปเยือนซะที "Porto Go" ตรงถ.สายเอเชีย บางปะอิน
หลังจากที่ผ่านสายตามาหลายครา
เชื่อว่า หลายคนที่ขึ้นเหนือ ก็คงจะเห็นเช่นเดียวกัน
หลังจากที่ผมได้สัมผัสกับที่นี่แล้ว รู้สึกประทับใจ จึงมาเคาะแป้นเพื่อบอกกล่าวกับแฟนเพจกัน
"Porto Go" นิยามตัวเองเป็น Lifestyle Mall
แต่ในความรู้สึกผม มันคือ Rest Area จุดแวะพัก ที่ยกระดับขึ้นมาอีกขั้น จนเสมือนที่ท่องเที่ยว
มีความสะอาดของ "ห้องน้ำ" ขนาดใหญ่เป็นจุดขายหลัก
และเพียบพร้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ที่เหมาะกับการแวะพักในเวลาไม่นาน
อย่างเช่น ซาลาเปาวราภรณ์ (ขายดีด้วยนะ) , Starbuck
แม้กระทั่ง แว่นท็อปเจริญ ก็ยังมี ว่าแต่ ใครมันจะมาตัดแว่นที่นี่ฟระ!!!!
ตอนแรกที่แวะ ตัวผมเองก็ไม่ได้กะเข้าห้องน้ำหรอก แต่คุณภรรยาได้เดินมาหาพร้อมบอกกล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า
"ห้องน้ำดีงามมากกกก ไปลองเลยๆ ไม่ลองจะเสียใจนะ" ขนาดนั้น!!!
อะ ไปลองก็ได้...
ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า ออกแบบมาได้ดีจริงๆ
ห้องน้ำติดแอร์ ดูโปร่งโล่งสบาย มีแสงสาดส่องเข้ามามาก ไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์เลย
และที่ชอบมากก็คือ "ห้องส้วม"
มีการออกแบบมาเพื่อเอื้อกับการทำความสะอาดเหมือน Mr.Loo เลย
(สำหรับคนที่ไม่รู้จัก Mr.Loo
คลิกอ่าน ที่นี่ได้เลย)
มีที่วางของด้านหลังพอประมาณ และมีที่วางของเล็กๆหลังประตูด้วย สามารถวางแก้วกาแฟได้อย่างสบายๆ
กระดาษชำระที่ทิ้งลงชักโครกได้เลย เพราะเป็นแบบย่อยสลายง่าย
จริงๆมันควรเป็นกระดาษแบบนี้ทุกที่นะครับ 555
และตอนจบเมื่อลุกแล้ว บางคนไม่ชอบไปกดน้ำเพราะกลัวที่กดสกปรก ที่นี่ไม่ต้องครับ เพราะมันกดให้เราอัตโนมัติเลย
คุณสมบัติทั้งหมดนั้น ได้มีการแปะบอกในห้องน้ำไว้แล้ว
ตรงนี้สำคัญนะ เพราะจะทำให้เรามีอารมณ์ร่วมไปกับมันว่า มันสะอาดจริงๆ
คล้ายๆกับพวกร้านอาหารที่สมัยนี้ ต้องมีบอกประวัติ และความเป็นมาของอาหารเพื่อสร้างการรับรู้ร่วมนั่นแหละครับ
ไม่แปลกใจเลย ที่คุณภรรยาผมจะดี๊ด๊าหลังเข้าห้องน้ำขนาดนั้น
โมเดลธุรกิจแบบนี้ ทำให้ผมนึกถึงปั๊มปตท.
สมัยก่อน ปั๊มปตท.ไม่ได้เป็นปั๊มยอดฮิตขนาดนี้
แต่ทุกวันนี้ ปั๊มปตท.ได้สถาปนาตัวเองเป็นจุดแวะพักอันดับหนึ่งไปแล้ว
จากแนวทาง "ห้องน้ำสะอาด" ของปั๊ม Jet ที่ตอนนี้ได้มาควบรวมกับ ปตท. ไปแล้ว
เมื่อมีคนแวะเข้าห้องน้ำมากขึ้น ร้านค้าต่างๆก็เริ่มผุดขึ้นมา ซึงร้านค้าส่วนใหญ่ก็จะขายดีซะด้วย
กลายเป็นส่วนเสริมซึ่งกันและกัน
ปตท.ได้หันหน้ามาจริงจังกับธุรกิจ Non-oil มากขึ้น จนคิดที่จะทำ Rest Area ที่ไม่มีปั๊มน้ำมัน และอาจจะมีโรงแรมด้วย
แผนงานนี้ได้ออกมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นผุดขึ้นมานะ
บางที Porto Go ก็อาจจะเป็นผลพวง ที่เกิดขึ้นมาเพราะได้ไอเดียจากแผนงานดังกล่าว ก็เป็นได้
บางคนอาจบอกว่า มันไม่ครบวงจรหรือเปล่า เพราะเติมน้ำมันไม่ได้
Porto Go ได้แก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วยการ ตั้งติดกับปตท.มันซะเลย!!!!
ตรงนี้ผมว่าเจ๋งมากนะ ไม่ต้องลงทุนเรื่องน้ำมัน แต่ก็ครบวงจรการแวะพักไปโดยปริยาย 555
ผมเชื่อว่า Porto Go จะเป็นต้นแบบให้อีกหลายจุดแวะพักหลังจากนี้ (ตัวผมเองก็ด้วย)
ตามแผนงานนั้น จะทำขึ้นมาถึง 20 สาขาภายใน 5 ปี!!
คงต้องมารอดูกันว่าจะประสบความสำเร็จแค่ไหน
ขอเอาใจช่วยนะครับ อยากมีห้องน้ำดีๆให้เข้าเยอะๆ อิอิ
อ๋อ เกือบลืมบอก
Porto Go มีเจ้าของเดียวกับ Porto Chino นะ เป็น Mall ที่ชาวพระรามสอง น่าจะรู้จักกันดี
ซึ่งเจ้าของก็คือ DLand Developer ที่เน้นพัฒนาอสังหาย่านพระราม 2 , ศรีราชา และระยอง