ปลูกกุหลาบแดงไว้เพื่อเธอ เก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าดอก
บ่งบอกความจริงที่ยิ่งใหญ่ บ่งบอกว่าใจฉันยังคงมั่น!!
ไม่ต้องสงสัยกันนะ ว่าทำไมวันนี้ผมมาแปลก
ก็แหม่ เข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรักทั้งที พี่หมีคนนี้ ก็อยากจะมีวันดีดีกับเค้าบ้าง
14 กุมภา วันวาเลนไทน์ ผ่านไปได้ไม่นาน ผมได้มีโอกาสแอบลงจากดอย มาพาคนรู้ใจไปสวีทกันสองต่อสอง
ณ ห้องอาหารอิตาเลียน บรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติกแห่งหนึ่ง ที่มีชื่อว่า...
“Medici Kitchen & Bar” ห้องอาหารที่อยู่ชั้นใต้ดินของ “Hotel Muse”
โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ในย่านทำเลทอง ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ บูติก โฮเทล ของกรุงเทพฯ
มีการออกแบบที่ผสมผสานศิลปะยุโรปเข้ากับยุคทองของเอเชีย ให้ดูโดดเด่น หรูหรา และร่วมสมัย
แต่ถึงจะหรูหราอย่างไร ก็ไม่ได้เข้าไปพักหรอกนะครับ เพราะแค่มื้อนี้ผมก็ตัวเบาแล้ว ฮ่าๆ
โรงแรมตั้งอยู่ในซ.หลังสวน เดินทางง่ายมาก หล่อๆ อย่างผมก็นี่เลยรถไฟฟ้า BTS
นั่งไปลงชิดลม แล้วเดินเข้ามาในซอยหลังสวน อีกแค่ไม่ถึง 10 นาที
เข้ามาด้านใน ก็เจอแต่กลิ่นไอของความรัก เอ้ย เขิน ><!
โรงแรมเค้าจัดที่ทางไว้ให้คุณผู้หญิงมาถ่ายรูปกันได้ตามอัธยาศัย
ส่วนล็อบบี้ด้านในก็เก๋ไก๋ สไตล์คลาสสิค
ชักภาพกันจนหนำใจ เราก็เดินลงบันไดไม้ที่ทอดยาวลงมาชั้นใต้ดิน จะพบกับบรรยากาศแบบ Neo-Industrial
เค้าทำ Concept มาให้เหมือนห้องเก็บไวน์ ใช้วัสดุอย่างไม้โอ๊คและเหล็กผสมผสานกันได้อย่างลงตัว
โซฟาหนัง แสงไฟนวลๆ รายล้อมด้วยแสงเทียนและดอกกุหลาบสีแดง แหม่....อะไรมันจะดีแบบนี้
รอช้าอยู่ใย ต่อไปก็เป็นเรื่องของปากท้อง...
เนื่องจากผมจอง Online มาล่วงหน้าสำหรับวันวาเลนไทน์โดยเฉพาะ อาหารที่ได้จึงมาเป็นคอส
จะมีให้เลือกสองแบบคือเนื้อกับปลา ผมสองคนเลยจัดกันมาคนละแบบ
คุณผู้หญิงเค้าประเดิมด้วย Mocktail สวยๆ แบบโนแอล รสเชอรี่อะไรสักอย่าง
ราคาประมาณ 2 ร้อยกว่าบาท แต่รสชาตินี่อร่อยใช้ได้เลย
ส่วนผมเร๊อะ สั่งน้ำเปล่าขวดละ 300 มาเกทับสะเลย ฮ่าๆ
พนักงานที่นี่เค้าดูแลดีมาก เสิร์ฟโน่น จัดนี่ หยิบนั่น ช้อนส้อมวางเต็มโต๊ะไปหมด เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก
ดื่มน้ำเข้าไปจนเกือบหมด นั่งหิวจนเกือบจะแทะโต๊ะ ในที่สุดจานแรกก็มาเสิร์ฟ
มันคือ “Fresh Oyster with scallops and saffron” หรือแปลเป็นไทยง่ายๆก็คือ “เมนูหอย แต่งครบพร้อมเข้าอยู่”
ซึ่งก็รสชาติดีอยู่ครับ หอยนางรมมีโรยผลสตอเบอร์รี่ให้เบาๆ
แต่บอกเลยว่าบรรยากาศภายในร้านเค้าช่วยให้ลืมความหิวได้อยู่เหมือนกัน
มีดนตรี Jazz เปิดคลอๆให้ฟัง เพลินๆ....แล้วจานต่อไปก็มาเสิร์ฟ
“Champagne Risotto with langoustine and chili flakes” หรือแปลเป็นไทยง่ายๆว่า “จะกุ้งหรือกั้งก็อร่อยเหมือนกัน”
นั่งไปสักพัก ก็มีโชว์ Opera นักร้องเค้าเดินออกมาร้องให้ฟังกันแบบสดๆ
เสียงนี่ใสยิ่งกว่า ทะเลมัลดีฟส์ ผมนี่ปรบมือรัวๆเลยครับ ร้องเพราะมากจริงๆ
แล้ว Main Course ก็มา ซึ่งก็คือ... “Snow Fish with asparagus, tomato coulis and basil”
แปลเป็นไทยสั้นๆว่า “ปลาหิมะ ราดซอส เสิร์ฟพร้อมหน่อไม้ฝรั่ง โรยใบกระเพราะทอด”
ส่วนจานผมคือ “Angus Beef tenderloin with black truffle, red wine and foie gras” แปลได้ว่า
“เนื้อแองกัสราดซอส ราดไวน์ ประทับตราตับห่าน”
เนื้อนุ่ม เข้าถึงรสชาติโดยแท้ ทั้งเนื้อและตับห่าน ย่างมาแบบ Medium Rare น้ำซอสก็เข้ากันดี
เห็นคำเล็ก คำน้อยแบบนี้ เอาเข้าจริงก็แน่นพุงอยู่เหมือนกันนะครับ
และยังไม่หมดแค่นี้ จานสุดท้ายถูกใจคุณผู้หญิงเค้าสุดๆเลยแหละ
กับ “Chocolate Coffer” หรือ “ช็อคโกแลตกะเทาะเปลือก”
พร้อมเขียนคำหวาน อย่าง Happy Valentine มาให้ด้านนอก
วิธีกินก็คือ กะเทาะๆ เปลือกช็อคโกแลตด้านนอกออกเรื่อยๆ ซึ่งผมตื่นเต้นมากกว่าข้างในจะมีอะไร
Tada!! มันคือของหวานสารพัดสิ่ง ที่มารวมตัวกันนั่นเอง
มีทั้ง มาการอง ผลสตอเบอรี่เคลือบ White Chocolate ผลเบอร์รี่พอช่วยตัดเลี่ยนได้บ้าง และอื่นๆอีกมาก
สุดท้าย ท้ายสุดของวันนี้ ก็คือ อะไรสักอย่างชื่อฝรั่งๆหน่อย ผมฟังไม่ทัน
เป็นสูตรที่ทางร้านคิดค้นขึ้นเอง เค้าว่าให้ดื่มตบท้ายหลังมื้ออาหาร จะเป็นการช่วยย่อยได้
ดื่มไปมันจะร้อนๆคอหน่อย เนื่องจากมีแอลกอฮอร์ผสมอยู่
และค่ำคืนนี้ก็ผ่านไปได้อย่างราบรื่นครับ คุ้มแล้วที่ยอมลงมาจากดอยเพื่อการนี้
ไม่ต้องรอวาเลนไทน์ก็มากันได้ครับ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป
ทางร้านเค้าเปิดให้บริการอาหารมื้อค่ำ ตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็น- 5 ทุ่ม
เผื่อใครสนใจอยากมาลองชิมเมนู “จะกุ้งหรือกั้งก็อร่อยเหมือนกัน” หรือ “น้ำเชอรี่รสชาติดีแบบโนแอล”
ฮ่าๆ แซวๆนะครับ อันนี้ผมตั้งเอง
การเดินทางก็ไม่ยากเลย จะ BTS หรือขับรถมาก็มีที่จอด แต่แนะนำให้โทรจองล่วงหน้าก่อนนะ คิวแน่นมาก
สุดท้ายนี้ “Medici Kitchen & Bar” จึงถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ดีดี ที่ช่วยให้ผมมีวาเลนไทน์ที่น่าจดจำ
ทั้งบรรยากาศ รสชาติอาหาร และที่สำคัญคนข้างๆ
เป็นอีกหนึ่งความประทับใจที่อยากบอกต่อครับ
Tag :
“โอ้โห ได้วิวนี้เลยเรอะ คอนโดอยู่ตรงนี้เลยจริงดิ นี่มันอยู่ท่ามกลางดง รีสอร์ท โรงแรม เลยนะ“ ผมเผลอหลุดปากออกมา เมื่อได้เห็นภาพโครงการครั้งแรก
"LIFE สาทร - นราธิวาส 22"...นี่น่าจะเป็น คอนโด LIFE ที่มีคนสนใจมากที่สุดในปี 2025
"KAVALON" พัฒนาโดย "เจ้าพ่อแคมปัสคอนโด" แห่งยุคอย่าง AssetWise ซึ่งนี่ก็เป็นโครงการที่ 6 แล้ว ในโซน ม.กรุงเทพ รังสิต
ในที่สุดที่ดินตรงหัวมุมพญาไท ต้นซอยรางน้ำ ที่ล้อมรั้วกันที่ไว้นานน๊านนานแล้วก็ลุ้นกันอยู่เป็นปีว่าจะขึ้นโปรเจกต์อะไร สรุปวันนี้ก็ได้ออกหัวออกก้อยแล้วในที่สุดครับ
ถ้าใครแวะไปสีลมจะเห็นได้ว่าเดิมทีมันมีที่ดินว่างติด BTS ศาลาแดง บริเวณข้าง Silom Complex อยู่
เอ๊ะ!! ปีนี้แบรนด์ 'Life' จาก AP มาติดๆ กันเลยแหะ!!
"MX27" ช่วง "อโศก-พร้อมพงษ์" นี่มันดงโรงแรมชัดๆ
เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา แม้ว่าจุดศูนย์กลางจะอยู่ที่ประเทศเมียนมาร์ แต่แผ่นดินไหวครั้งนี้ กลับรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงเทพมหานคร ที่อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางไกลนับพันกิโลเมตร
เมื่อคนซาก็ได้เวลาไปกิน "CHICHA San Chen" ชานมไต้หวันฉบับออริจิ้นเทียบเท่ามิชลิน 3 ดาว!
วันก่อนไปเจอคาเฟ่หนึ่งมาครับ ชื่อร้านว่า Second Cafe Wanglang ไม่ใกล้ไม่ไกล อยู่ตรอกวัดระฆัง ตรงวังหลังนี่เอง
เปิดประสบการณ์ "Pavilion Luncheon Experience" เซ็ตอาหารไทยเบาๆ 4 ที่จากโรงแรม Dusit Thani Bangkok
ใครจะไปอินช่วงเทศกาลเท่า 'คริสปี้ ครีม' ล่าสุดเข้าเดือนเมษายน ก็ส่งโดนัทและเครื่องดื่มแบบไทยๆ 4 รสชาติ ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ กับ Thai Sweet Selection