ในปี 2025 ก็เป็นอีกปีหนึ่งที่มีความท้าทายสูงมากในการดำเนินธุรกิจ จากที่ JAS Asset มีแผนจะเปิดขยายสาขา และ Business Unit ใหม่ ซึ่งก็คือกลุ่มธุรกิจโรงแรม แต่ด้วยสถานกาณ์ทางเศรษฐกิจจึงได้ชะลอแผนนี้ลงไปก่อน 

         ทางนี้จึงเบนเข็ม หันมาโฟกัสในสิ่งที่ตัวเองถนัด เชี่ยวชาญ และเห็นโอกาสในระยะสั้นก่อน ด้วยการปรับปรุงห้างที่มีอยู่ และสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการสร้างพันธมิตรใหม่ๆ ทำให้เกิด Tenant Mix ที่หลากหลาย โดยมุ่งไปที่กลุ่มธุรกิจที่จะสามารถเติบโตไปพร้อม ๆ กับ JAS ได้

         ยกตัวอย่างของสุกี้ตี๋น้อย ซึ่งปัจจุบันมีในห้างของ JAS ทั้งหมด 5 สาขา และจะเพิ่มตี๋น้อย บาร์บีคิวอีก 3 สาขา คือคู้บอนที่ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว โดยอีก 2 สาขาที่จะทยอยเปิดคือบางบัวทองและศรีนครินทร์ ใช้พื้นที่รวมทุกสาขากว่า 4,700 ตร.ม. นอกจากนี้ยังมีสาขาที่อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการวิเคราะห์ทางธุรกิจอีก 3 แห่ง โดยถ้าเปิดครบทุกสาขาตามเป้า แบรนด์ตี๋น้อยก็จะอยู่กับ JAS ทั้งหมด 11 ร้าน ใช้พื้นที่รวมกว่า 6,600 ตร.ม.

         นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรใหม่ๆ ที่เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเข้ามาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว อย่างแม็คโครที่ไปเปิดที่แจส วิลเลจ อมตะ ชลบุรี ช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 โลตัส มาเปิดที่สาขาประเวศ และล่าสุดปลายปี 2024 ได้กลุ่ม Big C ที่เอาพรีเมียมแบรนด์อย่าง Big C Food Place มาเปิดที่เดอะ แจส รามอินทรา 

         ปี 2025 JAS ตั้งใจเปิดพื้นที่โซนให้เช่าเป็นสำนักงานเพิ่มขึ้น สำหรับบริษัทที่จะเปิดใหม่ หรือมีสำนักงานสาขาที่ต้องการออกมาโซนรอบเมือง กับการจอดรถที่สะดวก มีร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม Food Court ซูเปอร์มาร์เก็ตที่สะดวกกับพนักงาน การมาเช่าพื้นที่ในศูนย์การค้าชุมชนก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก