นี่เป็นหนึ่งการมาเดินสำรวจทำเลที่ทุลักทุเลที่สุดโครงการหนึ่งเลยก็ว่าได้

        เกริ่นนำแบบนี้ หลายคนอาจจะคิดว่า เอ้า!! ทำเลเค้าไม่ดี เดินทางลำบากหรอ? 

        คำตอบคือเปล่าครับ แต่มาในวันที่ฝนตกฉ่ำ แบบที่ว่ามองทางยังแทบไม่เห็น 

        จั่วหัวก่อนว่า นี่เป็นการรีวิวทำเลแบบทุลักทุเล ฟิลไหนๆ ก็มาแล้ว ไม่ถอยกลับแน่ๆ 55555

        แต่ข้อดีของการมาสำรวจทำเลในขณะที่ฝนตก ก็มีข้อดีเหมือนกันนะ เพราะผมสามารถรีวิวได้ว่า ในถนนหนทาง หรือบริเวณทำเลของโครงการนี้น้ำท่วมหรือไม่!!

        เอาล่ะ เข้าเรื่อง วันนี้ผมจะพาทุกคนมาดูทำเลคอนโดโครงการที่หลายคนเฝ้ารอกัน นั่นก็คือโครงการ 'So Origin Sukhumvit 105' (โซ ออริจิ้น สุขุมวิท 105) ถ้ารู้สึกว่าชื่อมันฟังดูแล้วคุ้นๆ หูจังแหะ ใช่ครับ มันคือตัวเดียวกับ 'โซ ออริจิ้น ลาซาล' นั่นแหละ เปลี่ยนตัวห้อยท้ายนิดหน่อย (แต่ส่วนตัวแอบชอบชื่อเก่ามากกว่า)

        ซึ่งตอนที่เค้ายังใช้ชื่อ 'โซ ออริจิ้น ลาซาล' ตอนนั้นข่าวว่าจะทำเป็น High-Rise แต่ตอนนี้นอกจากเปลี่ยนชื่อเป็น 'โซ ออริจิ้น สุขุมวิท 105' แล้วยังปรับเปลี่ยนใหม่เป็นคอนโดแบบ Low-Rise แทนอีกด้วย

        ตัวโครงการถือว่าใหม่ ข้อมูลต่างๆ ยังไม่มีแง้มมาแบบ Official วันนี้ผมเลยขอเน้นพูดถึงทำเลเป็นหลักกัน

        โครงการตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 105 หรือซอยลาซาล ออกจาก BTS แบริ่ง เดินเข้ามานิดเดียวก็ถึง

        ไม่ต้องนั่งวินยังได้ เดินไปเลยชิลๆ จริงๆ ผมมองว่านี่คือโครงการที่เหมาะกับคนใช้รถสาธารณะมากนะ เพราะโครงการใกล้รถไฟฟ้ามาก

        บริเวณปากซอยลาซาลมีคิววินมอเตอร์ไซต์อยู่เพียบเลย วันไหนเกิดรีบๆ มีธุระไม่ไกล รอรถไฟฟ้าฟ้าไม่ไหวโบกวินได้เลย

        จริงๆ แถวนี้เค้ามีรถสองแถวนะ ช่วยประหยัดค่าเดินทางได้มาก ถ้าหากเทียบกับรถไฟฟ้า ไปไหนในระยะทางใกล้ๆ ไม่เร่งรีบ สามารถเลือกใช้บริการรถสองแถว รถเมล์ หรือพี่ๆ วินได้เลย

        มาพูดถึงเรื่องรถไฟฟ้ากันสักนิด จริงอยู่ว่าสถานีแบริ่งคือสถานีที่อยู่ช่วงปลายสายของสายสุขุมวิท ฝั่งเคหะฯ แต่จริงๆ เค้าก็มีข้อดีอยู่ นั่งก็คือ ถ้าเราจะนั่งไปเคหะฯ หรือสำโรง ก็คือแปปเดียวถึง ใช้เวลาไม่นาน55555

        แต่เอาแบบสาระเลยนะครับ คือด้วยความที่รถไฟฟ้าตอนนี้เริ่มมีการเชื่อมต่อกับสายสีอื่นๆ แล้ว อย่างสายสีเหลืองที่สุดทางปลายสายที่สำโรง สามารถเชื่อมต่อการเดินทางเข้าบางกะปิ หัวหมาก ลาดพร้าว ได้สะดวกและใช้ระยะเวลารวดเร็วมากขึ้น 

        อยู่ตรงนี้ เราสามารถนั่งรถไฟฟ้าไปต่อสายสีเหลืองที่สถานีสำโรงเพียงสถานีเดียวเท่านั้นเอง นอกจากนี้ยังนั่งเข้าใจกลางเมืองอย่างสยามได้แบบต่อเดียวถึง

        ทีนี้มาดูในส่วนของคนที่มีรถส่วนตัวกันบ้าง ซอยสุขุมวิท 105 หรือ ซอยลาซาล เป็นซอยเล็กๆ ค่อนไปทางแคบเลยแหละ ถนนไม่ได้กว้าง ฉะนั้นการสัญจรในช่วงเวลาเร่งด่วน อาจจะติดขัดสักหน่อย บวกกับช่วงต้นซอยเป็นทางเข้าออกโรงเรียนนานาชาติ St. Andrews ดังนั้นใครมีรถส่วนตัว ก็อาจจะต้องเผื่อใจเรื่องนี้กันไว้ด้วยนะครับ

        มาดูข้อดีกัน ออกจากซอยมาปุ๊บ ตรงนี้เราจะเจอกับแยกลาซาลเลย ข้อดีคือเราสามารถเลือกใช้เส้นทางในการขับขี่ได้หลากหลายเลยนะ

        โดยแยกลาซาล จะเป็นการตัดผ่านระหว่างถนนลาซาล และ ถนนสุขุมวิท ออกซอยเบี่ยงเข้าถนนสุขุมวิทฝั่งขาออกยิ่งยาวเข้าบางนา เอกมัย ทองหล่อ ได้แบบยาวๆ หรือจะเลี้ยวออกจากซอยแล้วใช้เส้นสุขุมวิทฝั่งขาออก ฝั่งนี้เป็นฝั่งวิ่งเข้าสำโรง สามารถขับออกสมุทรปราการได้เลย ผมว่าสะดวกเลยครับ

        หรือไม่ต้องออกจากซอยมาทางแยกลาซาลก็ได้ ด้วยความที่ซอยนี้เค้าเป็นซอยที่ที่เชื่อมระหว่างเส้นสุขุมวิทและศรีนครินทร์ แถมเป็นเส้นที่ติดกับถนนบางนา-ตราด ซึ่งถือว่าเป็นซอยที่มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย 

        จริงๆ เราไม่วิ่งเข้าเมืองตรงเส้นสุขุมวิทที่แยกบางนาก็ยังสามารถมาใช้ถนนลาซาลเชื่อมกับถนนศรีนครินทร์ แล้ววิ่งขึ้นไปทางรามคำแหง ยิงยาวถึงเส้นลาดพร้าว เข้าเดอะมอลล์บางกะปิ ได้ด้วยนะครับตรงนี้ หรือขับเข้าไปทางบางปูก็ได้ อันนี้สุดที่ถนนสุขุมวิทเลย

         ในซอยลาซาลมันก็จะมีซอยย่อยๆ สับๆ ในนี้เพียบเลยนะ ซึ่งสามารถใช้ลัดเข้าถนนเส้นหลักๆ ได้เยอะเลย แต่ผมไม่ค่อยชัวร์เท่าไหร่ รู้แค่ว่าซอยลาซาล 23 กับ 55 เป็นซอยที่เราใช้ขับเชื่อมเข้าถนนบางนา-ตราด ได้ด้วยครับ ซึ่งตรงซอยลาซาล 55 นี่ขับออกบางนา-ตราด เจอเซ็นทรัลบางนาเลย สามารถขับออกทางด่วนบูรพาวิถี วิ่งออกชลบุรีได้ชิลๆ เลย

        เรามาดูในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ กันบ้าง คือต้องบอกเลยว่าย่านนี้ของกินเพียบ คือตั้งแต่ออกจากรถไฟฟ้ามาก็มีมาให้เลือกสรรแล้วนะ บน BTS แบริ่งเองก็มีร้านรวงเยอะเหมือนกัน แต่ออกจากสถานีมาเราจะเจอตลาดต้นไทรก่อนเลยอันดับแรก แต่อยู่ทางออกที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับซอยสุขุมวิท 105 นะ ผมว่าคนอยู่ย่านนี้คงได้มีโอกาสแวะฝากท้องทีนี่กันแทบทุกวัน

        บริเวณปากซอยลาซาลมีเซเว่น ร้านค้าอยู่บ้าง ระหว่างทางเดินมายังที่ตั้งโครงการ มีร้านรวงตลอดทาง ทั้งคาเฟ่ อาหารคาว หวาน ศูนย์อาหาร เป็นต้น

        ด้วยความที่เป็นแหล่งชุมชน จริงๆ ถ้าฝนไม่ตกผมคงได้เดินไปดูนั่นดูนี่ในซอยลาซาลอีกเยอะ แต่หาข้อมูลมาพอทราบว่าบริเวณนี้มีโครงการทั้งแนวราบและคอนโดอยู่ก่อนแล้วหลายโครงการ เพราะเป็นซอยที่อุดมสมบูรณ์ในแง่คมนาคม คนเลยเลือกมาอยู่กันเพียบ ผลที่ตามมาก็คือแหล่งอำนวยความสะดวกอย่างเรื่องของร้านรวงนี่แหละ ผมว่าอยู่ที่นี่ หายห่วงเรื่องอาหารการกินแน่นอนครับ

        ในส่วนของห้างสรรพสินค้า ก็อย่างที่บอกว่าออกเส้นบางนา-ตราด จะเจอเซ็นทรัลบางนา นอกจากนี้ยังมีทั้ง SB Design Square, Index Living Mall, Mega บางนา , Ikea บางนา , Seacon Square , Paradise Park หรือถ้าขึ้นไปฝั่งสำโรงก็จะมี อิมพีเรียลสำโรง และ สำโรงเซ็นเตอร์ อีกด้วย

        นอกจากนี้ยังใกล้สถานศึกษาทั้ง รร.นานาชาติ St. Andrews ที่อยู่บริเวณปากซอย , รร.บางกอกพัฒนา , รร.ลาซาล และ รร.เซนต์โยเซฟ บางนา รวมถึงโรงพยาบาลใกล้เคียง อาทิ รพ. มนารมย์ , รพ.ศิครินทร์ และ รพ.บางนา เป็นต้น

        อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนน่าจะตั้งคำถามแล้วว่า สรุปที่มาถ่ายช่วงฝนตกน้ำจะท่วมหรือไม่? คำตอบคือน้ำขังอยู่นะครับ 5555 จริงๆ ก็ไม่ถึงกับท่วมนะ หรือผมมาในตอนที่ฝนมันยังตกไม่นานหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ แต่เดาว่าถ้าฝนตกหนักเป็นชั่วโมงๆ ก็น่าจะมีน้ำท่วมขังอยู่บ้างนะ (ใครอยู่ย่านนี้มาตอบหน่อย)

        ก็นั่นแหละครับ ลองพิจารณาดูว่าทำเลนี้ โดนใจมากน้อยแค่ไหน ทำเลดีระดับใด แต่สำหรับผมถือว่าโอเคมากๆ อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจเลย บวกกับราคาเริ่มต้นที่เริ่มเพียง 2 ล้านนิดๆ ผมว่าสวยๆ เลยนะ

        อ้อ ทิ้งท้ายด้วยภาพบางส่วนจาก Google maps เพราะนอกจากพระพิรุณจะไม่รักแล้ว ผมถ่ายผิดไซท์โครงการด้วยครับ เลยได้แค่บรรยากาศรอบสถานีแบริ่ง และช่วงต้นซอยลาซาลมาเท่านั้น 

        จริงๆ โครงการนี้เค้ามีล้อมไวนิลเรียบร้อยแล้วด้วย หาเจอไม่ยาก แต่ผมหาไม่เจอ บวกทุลักทุเล วันนี้เอารูปจาก Google maps และบรรยากาศคร่าวๆ ไปก่อนนะครับ ไว้จะแก้ตัวใหม่ในวันที่อากาศแจ่มใสกว่านี้ 5555