เวลามีคนบอกว่ากรุงเทพฯ ไม่มีที่ให้ไปนอกจากห้าง ลึกๆ เวลาเห็น หรือได้ยินอะไรแบบนี้ ผมแอบเถียงขาดใจอยู่นะ

        จริงๆ แล้วกรุงเทพยังมีสถานที่ให้ไปเที่ยวพักผ่อน หย่อนใจ ทำกิจกรรมมาก ไม่ใช่จะมีแต่ห้างอย่างเดียว

        อย่างล่าสุดวันก่อนผมมีโอกาสได้ไปเดินเล่น เวิร์คช้อปงานศิลปะที่ 'คลองบางหลวง' มาหมาดๆ นี้เอง

        ที่นี่คือชุมชนริมน้ำเก่าแก่ฝั่งธนบุรี ที่ยังคงเอกลักษณ์วิถีชาวบ้านริมคลองไว้ราวกับเราได้หลุดออกจากความวุ่นวายของเมืองหลวง

        การเดินทางก็ง่ายนิดเดียวเองครับ เราสามารถนั่งรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน มาลงที่สถานีบางไผ่ จากนั้นเดินออกมาทางซอยเพชรเกษม 22 นั่งวินต่อเข้ามาอีก 15 บาท เพียงเท่านี้ก็ถึงตลาดคลองบางหลวงแล้ว

        หรือจะขับรถมาเองก็ได้นะครับ เค้ามีที่ให้จอดรถอยู่ แต่ขอเตือนว่ามีไม่เยอะ จอดได้ไม่มาก และทางเข้ามาเป็นซอยแคบๆ อาจจะสัญจรลำบาก ถ้าให้แนะนำ ผมว่านั่งรถไฟฟ้าต่อวินดีกว่าง่ายกว่าเยอะเลย

        ที่นี่จะเป็นชุมชนข้างวัดข้างคลอง หลุดเข้ามาเหมือนได้ไปต่างจังหวัดเลยนะ เราสามารถเดินเลาะชมบ้านเรือนถ่ายรูปเล่นได้ตลอดทาง ที่นี่ถือว่าเป็นชุดชนสะอาดเลยทีเดียว ไฮไลท์ของย่านนี้คงเป็นที่สะพานที่มีป้ายคำอธิษฐานเต็มสองข้าง

        เรายังสามารถเดินเลียบคลองชมบรรยากาศและวิถีชีวิตริม 2 ฝั่งคลอง ซึ่งคลองนี้จะมีบริการเรือท่องเที่ยวชมวิว ส่วนใหญ่จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากันเยอะเลยครับ

        ที่น่าสนใจก็คือร้านอาหารที่นี่ถือว่าถูกมาก ราคาปกติไม่ได้ชาร์จอะไรนะ มาเที่ยวได้แบบไม่ต้องกลัวเปลืองกันเลย เพราะปกติเวลาไปย่านที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะ ราคาอาหารและเครื่องดื่มก็จะอัปเพิ่มขึ้นตามระเบียบ แต่ที่นี่ไม่เลยนะ แถมร้านรวงยังเพียบ สามารถมาฝากท้องที่นี่ได้เลย

        ผมแวะเข้าไปทำเวิร์กช้อปงานศิลปะที่ 'บ้านพึ่งศิลป์' ที่นี่มีกิจกรรมให้เราทำเยอะเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นร้อยลูกปัด สร้อยคอ สร้อยข้อมือ สายคล้องมือถือ เพ้นท์จาน เพ้นท์เคสมือถือ วาดเฟรมผ้าใบ ฯลฯ

        สามารถสั่งเครื่องดื่มระหว่างที่ทำได้ด้วย ราคามาตรฐาน 60-70 บาท เท่าร้านคาเฟ่ทั่วๆ ไป ซึ่งจริงๆ เราสามารถนั่งทำข้างนอก ห้อยขา ดูวิวคลอง ก็ได้ตามแต่สะดวก

        แต่จริงๆ ยังมีอีกที่ที่คนส่วนใหญ่ชอบไปกันนั่นก็คือ 'บ้านศิลปิน' อันนี้เค้าจะเป็นร้านแบบเปิด รับลม รับแสงธรรมชาติเลยครับ บวกกับคาเฟ่ในร้านไปเลย จะต่างกับบ้านพึ่งศิลป์ตรงที่บ้านพึ่ศิลป์จะเป็นร้านที่ติดแอร์ ไม่ได้เปิดโล่ง

        ซึ่งแม้ 'บ้านศิลปิน' จะเป็นร้านที่เปิดโล่งไปเลย แต่ก็ไม่ได้ร้อนเลยนะครับ ด้วยความที่เค้าเป็นบ้านริมคลอง ลมธรรมชาติจึงค่อนข้างสบาย แค่พัดลมก็เอาอยู่ เท่าที่สังเกตชาวต่างชาติอยู่ฝั่งบ้านศิลปินเยอะ ส่วนเด็กวัยรุ่นคนไทยมักจะไปที่บ้านพึ่งศิลป์นะ

        นอกจากนี้ยังมีร้านของฝากต่างๆ เยอะแยะเต็มไปหมด แต่ส่วนมาก มักจะเป็นงานฝีมือ งานคราฟท์ ที่เกี่ยวกับศิลปะจะเยอะหน่อย 

        จริงๆ ผมว่าเป็นที่ที่มีมุมถ่ายรูปเยอะเลยนะ จริงๆ มาที่นี่ไม่ได้มีแค่งานเวิร์กช้อปศิลปะให้ทำอย่างเดียว แต่เรายังสามารถให้อาหารปลา แวะไหว้พระ ทำบุญ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต รวมถึงนั่งเรือชมวิวได้อีกด้วย แอบเห็นเส้นทางการล่องเรือส่วนใหญ่จะล่องเหมาเรือไปท่าช้าง ท่าพระจันทร์ ท่าสาทร ประมาณนี้ครับ

        ชาวกรุงเทพคนไหนเบื่อห้าง อยากลองเที่ยวชิลๆ ใกล้ๆ บ้านเดินทางสะดวกๆ ผมแนะนำที่นี่เลย ประหยัดงบ สบายกระเป๋า เที่ยวแบบไม่เหนื่อยเกินไป ต้องที่นี่เลยครับ

        แต่อยากบอกว่าวันหยุดคนเยอะมาก!!! ขนาดผมมาวันธรรมดาช่วงเที่ยงๆ นะ คนก็เยอะเหมือนกัน แต่ไม่ถึงขั้นต้องแย่งกันซื้อ แย่งกันกินอะไรขนาดนั้น ถ้าใครอยากชิลๆ เดินสบายๆ มาวันธรรมดาดีกว่าครับ

        ที่นี่เค้าเปิดทุกวันประมาณ 09.00-18.00 น. หรือใครอยากมาวันหยุดแนะนำมาเช้าๆ คนจะไม่เยอะจนเกินไปครับ