นี่คือทาวน์เฮ้าส์แบรนด์แรกของ "เมเจอร์" ที่สามารถพูดได้เลยว่าเดบิวต์มาแบบ "ไร้คู่แข่ง"
"MILFORD ลาดพร้าว - รามคำแหง" เป็นแบรนด์น้องใหม่สไตล์เวลเนสจากบ้านเมเจอร์ที่หยิบยืมชื่อนี้มาจาก Milford Haven ในเวลส์ ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 53 ที่หากใครเคยผ่านไปผ่านมาก็ต้องนึกภาพออกว่าซอยนี้นอกจากแหล่งชุมชนแล้วก็อุดมไปด้วยร้านค้าร้านอาหารมากมาย
ด้วยความที่อินสไปร์มาจากฝั่งกระโน้น คอนเซ็ปต์ของโครงการจึงเป็น "English Eclectic Design" สอดแทรกกลิ่นอายความเป็นอังกฤษทั้งภายในและภายนอกอาคารเลย
พื้นที่เริ่มต้นจะอยู่ที่ 24.5 – 72 ตารางวา และพื้นที่ใช้สอยกว่า 237 – 498 ตารางเมตร บนพื้นที่ราวๆ 22 ไร่
ที่สำคัญคือ ทั้งโครงการมีเพียง 84 ยูนิต แต่จากที่ผมได้ยินมาคือทางเมเจอร์มีเบสลูกค้าอยู่ที่ประมาณ 100 คน แต่แน่นอนว่าในจำนวนนี้คงไม่สามารถเป็นเจ้าของทาวน์โฮมหลังนี้ได้ทุกคนเพราะมันมีแค่ 84 หลังให้แย่งชิงกันนี่นา ดังนั้นสงครามย่อมบังเกิดเป็นแน่แท้ครับ
ใครจะได้เป็นเจ้าของโครงการทาวน์โฮมแรกจากเมเจอร์ก็ไม่รู้ละ แต่ฟังก์ชันโครงการเค้าก็น่าสนใจให้แย่งกันทีเดียว
พื้นที่ภายในของที่นี่ถูกแบ่งสัดส่วนออกเป็น 3.5 ชั้น หรือจะตีไปเลยว่า 4 ชั้นก็ได้แหละ ที่สำคัญคือมีฟังก์ชันครบ 3 - 5 ห้องนอน สามารถเลือกรูปแบบการอยู่อาศัยได้ตามต้องการเลย
ถ้าเราขับรถเข้ามาปุ๊บก็จะเห็นตัวคลับเฮ้าส์ก่อนเป็นอันดับแรก เป็นคลับเฮ้าส์ 3 ชั้นที่มีให้ครบครันทั้ง EXECUTIVE LOUNGE, LAP POOL, KID’S POOL และ POOL LOUNGE พร้อมทัศนียภาพสีเขียวขจีของสวนสวยรายล้อมทั้ง PET PARK, MILFORD PARK พร้อมที่นั่งพักผ่อนแบบส่วนตัวและสนามเด็กเล่นกลางแจ้ง
ชั้นสองของคลับเฮ้าส์จะเป็นโซนของ FITNESS CENTER ทันสมัยอุปกรณ์ครบครันรองรับการออกกําลังกายทุกรูปแบบ ทั้งการคาร์ดิโอ และ WEIGHT TRAINING
ในขณะที่ชั้นสามของคลับเฮ้าส์ เป็นที่ตั้งของพื้นที่ CO-WORKING SPACE ที่ทางโครงการให้ชื่อว่า WORK CLUB มาพร้อมห้องเรียนและระเบียงสำหรับเอาไว้มองเห็นวิวสวนด้วย
ส่วนบ้านในโครงการจะมีด้วยกันทั้งหมด 3 ไซส์ครับ ไล่ไปเลยตั้งแต่ XL L M
3 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ, 1 ห้องอเนกประสงค์ และ 2 - 3 ที่จอดรถ
4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 1 ห้องอเนกประสงค์ และ 2 - 3 ที่จอดรถ
5 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 1 ห้องอเนกประสงค์ และ 3-6 ที่จอดรถ
ในภาพรวมคือเราสามารถพลัสห้องอเนกประสงค์รวมไปได้เลย เพราะก็ให้มาจุกๆ เหมือนกัน จะเอาไปปรับทำเป็นอะไรก็ตามแต่ความต้องการนะ
แต่บ้าน Extravagant ไทป์ XL นั้นจะพิเศษกว่าหน่อย คือมีไพรเวทลิฟต์ให้ด้วย ซึ่งผมคิดว่านี่คือจุดสำคัญเลยล่ะ เพราะเท่าที่ลองไปทัวร์มา รู้สึกว่าบ้านแนวนี้ไม่เหมาะกับคนอายุมากอย่างแรง 5555 เดินขึ้นบันไดกันจนหอบไปหมด
แม้ทาร์เก็ตเค้าจะเป็น Gen Y หรือ Millennial พวกคนเริ่มมีครอบครัวอายุยังไม่มากเท่าไหร่อะไรแบบนี้ก็จริง แต่ผมคิดว่าก็ต้องมีบางครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วยแหละ ดังนั้นบ้านที่น่าจะขายดีก็คงจะเป็นไทป์ใหญ่สุดไปเลยเหมือนกัน
มาดูที่ชั้นแรกกันดีกว่า อันนี้การดีไซน์ห้องรับแขกเน้นความโปร่งสบายสุดๆ เพราะมีความสูงแบบ Double Volume ถึง 5.85 เมตร มาพร้อมพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถปรับดีไซน์ให้กลายเป็นห้องทำงานหรือห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุได้อย่างลงตัว
ที่ชอบคือเน้นการเปิดรับวิวแสงแดดและวิวสวนสีเขียวด้านข้าง มีตัวคอร์ทยาร์ดมาให้ทำให้รู้สึกสบายตากับความกรีนเข้ามาหน่อย
สำหรับชั้นลอยหรือ Mezzanine ก็ถูกแบ่งพื้นที่เป็นสองส่วน ทั้งห้องด้านหลังและด้านหน้า ความพิเศษของการดีไซน์รูปแบบบ้านที่แบ่งเป็นโซนด้านหน้าและด้านล่าง มี Private Courtyard ให้ทุกชั้นสามารถสัมผัสความร่มรื่นของธรรมชาติ และเป็นการเพิ่มแสงสว่างให้ตัวบ้านในมิติเดียวกัน
มาพร้อมลูกเล่นที่โดดเด่นของตัวบ้าน กับ Glass Sky Box ขนาดใหญ่ซึ่งอันนี้นับเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญเลย อารมณ์แบบอยู่ในมหานคร เป็น Box กระจกที่ยื่นออกมาจากตัวบ้านเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถรับชมวิวบริเวณหน้าบ้านได้ตลอดเวลา
ซึ่งอันนี้น่าจะเรียกความสนใจได้ดี เพราะรู้สึกว่ายังไม่เคยมีทาวน์เฮ้าส์ไหนทำ Sky Box และลูกเล่นตรงนี้เราสามารถปรับตามไลฟ์สไตล์เราได้เลย บ้านตัวอย่างในโครงการนั้นทำออกมาเป็นที่นั่ง แต่เราไม่จำเป็นต้องทำเฉพาะที่นั่งก็ได้ เปลี่ยนไปทำเป็นที่ยืนเอาไว้ถ่ายรูปสวยๆ ก็เหมาะเหมือนกัน
อีกอย่างคือ ฟาซาดของโครงการให้อารมณ์แบบ bring modern to classical design ครับ เป็น classic twisted facade ที่สวยแบบเรียบๆ ดี
บริเวณพื้นที่นั่งเล่นและโซนรับประทานอาหารตกแต่งด้วยกระจกบานสูงจากพื้นจรดเพดาน ทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเปิดรับทัศนียภาพและแสงสว่างจากภายนอกได้
พื้นที่ใช้สอยถือว่าครบครัน ทั้งมุม Pantry สําหรับเตรียมอาหาร ห้องครัว ห้องแต่งตัว และห้องนอนที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ส่วนกลางของครอบครัว ออฟฟิศ หรือห้องเพลย์กราวน์สําหรับเด็กๆ ได้
ห้องนอนใหญ่ชั้นบนคือกวาดไปเลยทั้งชั้น ใหญ่จุใจ และพื้นที่มุมพักผ่อนนั่งกว้างขวางที่เชื่อมต่อกับ SKY BOX ก็อยู่ตรงนี้เหมือนกันครับ
โครงการนี้ให้ WALK-IN CLOSET ขนาดใหญ่มาเลย พื้นที่ห้องนํ้าเองก็ตกแต่งสวยงาม ให้อ่างล้างหน้าคู่ ห้องอาบนํ้า และอ่างอาบนํ้า
นอกจากนี้บนชั้นสามยังมีห้องนอนที่ถือว่ากว้างทีเดียวอีก 2 ห้อง พร้อมห้องนํ้าในตัว รวมถึงห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนแขกหรือห้องออกกําลังกายก็ได้นะ
จุดที่อาจจะน่าเสียดายนิดหน่อยคงเป็นที่ทางเข้า-ออกโครงการให้มาแบบหน้าแคบไปนิด ตัวเลนถนนในซอยก็แคบ แต่มันก็สามารถเข้าใจได้เพราะข้างในถือว่ายัดทุกอย่างมาให้จนเต็มแล้ว แม้ถนนจะแคบไปนิดแต่ก็แลกมากับทำเลที่มีทุกอย่างให้ครบครัน มีของกินเยอะตั้งแต่ปากซอยยันท้ายซอย
สำหรับทำเลนับว่ามีข้อได้เปรียบสูง กับทำเล Creative Hub แหล่งรวมความคิดสร้างสรรค์และออฟฟิศของคนรุ่นใหม่
เพราะด้วยคาแรคเตอร์ของย่านลาดพร้าว - รามคำแหง ที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยหนาแน่นแต่ดั้งเดิมและมีสถานศึกษาหลายแห่ง ย่านนี้จึงเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายล้อมรอบทำเลครับ
ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า และไลฟ์สไตล์มอลล์ แหล่งชอปปิ้งไลฟ์สไตล์ขนาดใหญ่หลายๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่เลย สถานศึกษาชื่อดังหรือโรงพยาบาลเองก็อยู่ใกล้มาก
ไม่พูดถึงไม่ได้คือการเข้ามาของศูนย์กลางระบบรถไฟฟ้า ทั้งสายสีส้มที่เชื่อมกรุงเทพฯ ตะวันออก-ตะวันตก สายสีเหลือง เชื่อมต่อกรุงเทพทางเหนือสู่ตะวันออกและตอนใต้ และในอนาคตกับสายสีน้ำตาล
นับเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพพื้นที่และการรองรับการขยายตัว เพื่อให้มีความสะดวกสบายมากขึ้นในการเดินทางไปยังพื้นที่อื่นสุดๆ
มองในแง่ซัพพลายเองก็ต้องพูดว่าโซนนี้ไม่ค่อยมีซัพพลายเลย นั่นเพราะมันไม่มีที่ดินในเมืองขนาดนี้ที่จะทำทาวน์เฮ้าส์ช่วงราคา 18 - 35 ล้านได้แล้ว จะขึ้นแนวสูงก็อาจติดปัญหา EIA ขึ้นเป็นทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้นครึ่งแบบนี้ก็เข้าที
เอาเป็นว่า "MILFORD ลาดพร้าว - รามคำแหง" ไม่มีคู่แข่งเลยในควอลิตี้และใกล้เมืองขนาดนี้ มีแต่บ้านเดี่ยวที่ต้องขยับออกไปอีกและราคาจะแพงขึ้น ไม่ก็คอนโดไปเลย
ดังนั้นจึงถือว่าเหมาะมากสำหรับคนที่เริ่มต้นการมีครอบครัวและกำลังมองหาบ้านที่อยู่ในเมืองในลักษณะกว้างขวาง แต่อย่างที่บอกไป ยูนิตมีจำกัด แถมดูท่าจะขายดี ใครอยากเป็นเจ้าของก็ต้องไฟว์หน่อยแล้ว
Tag :
เพิ่งเคยเจอ คอนโดที่มีน้ำตกสูง 18 ม. เป็นส่วนกลาง!! จัดเป็น “Ideo” ที่ไม่ทำให้รุ่นพี่เสียหน้าจริงๆ ”ส่วนกลาง“ สวยงามตามแบบฉบับ ”Ananda“
เปิดห้องตัวอย่าง ‘KingsQuare Residence’ คอนโด Super Luxury ของ ’สหพัฒน์‘ ที่คิดทุกเม็ด แบบสมราคา
"The Standard Residences Phuket Bang Tao" เป็น 1 ในโครงการที่ผมรอยลโฉมมากที่สุดในปีนี้ เพราะนี่คือ โครงการที่เกิดจากการเขย่ามือร่วมกันของ 2 เจ้ายุทธจักรระดับโลก
ผุดอีกหนึ่งโครงการของย่านพระราม 9 NUE Epic Asoke-Rama 9 (นิว อีปิค อโศก-พระราม 9) นี่คือคอนโดที่จะมายืนเคียงคู่ถนนดินแดง ที่ผมบอกเลยว่า น่าจะเป็นที่ดินผืนสุดท้ายแล้วของย่านนี่แล้วนะ!!
จริงๆ เพจเราเคยลงข้อมูลคร่าวๆ กับเค้าเอาไว้ด้วย แต่ยังไม่ได้เจาะลึกอะไรมาก เพราะยังไม่ได้มีข้อมูลอะไรมากมายเลย จวบจนวันนี้ ก็ยังไม่ได้ข้อมูลเพิ่มนะ5555 แค่ชื่อโครงการนี่ผมยังไม่แน่ใจเลยนะว่า 'พี่สิบหมื่น' เค้าจะเคาะแบรนด์ไหนมาลง ตอนนี้เรารู้ๆ กันในนามของ 'แสนสิริ เจริญนคร 29/2' กันก่อนอ่ะแหละ แต่กว่าจะได้ข้อมูลเพิ่มเติม นี่เห็นข่าวว่ามีการเคลียร์พื้นที่เตรียมสร้างละ ผมเลยหยิบมาเจาะเรื่องทำเลก่อนดีกว่า เอาไว้อ่านเล่นๆ ระหว่างรอพี่สิบหมื่นปล่อยดีเทลมา
ถนนปั้น สาทร เตรียมพร้อมรับอีกหนึ่งความไอคอนิกที่จะมาเติมเต็มซอยสีลม 19 ให้กระหึ่มอีกครั้งแล้วครับ
เคยมีคนบอกว่า เวลาจะเลือกซื้อบ้านหรือคอนโด สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณาคือเรื่อง 'การบริการหลังการขาย'
ผมคิดว่าแบรนด์อายุเยอะๆ ในไทยที่ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยได้เก่งมีอยู่ไม่กี่แบรนด์ครับ และหนึ่งในแบรนด์ที่เข้ามาในหัวเวลาคิดถึงเรื่องนี้ ถ้าไม่ใช่ขายหัวเราะ-มหาสนุก ก็ต้องเป็น "ไปรษณีย์ไทย" นี่แหละ
เดือนสุดท้ายของไตรมาสแล้วนะครับ ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ
การมีบ้านเดี๋ยวนี้มันยาก... หรือใครจะเถียงว่าไม่จริง 55555
life in plastic it's fantastic!! คริสปี้ครีม ฉลอง 65 ปี บาร์บี้!! ด้วย “Krispy Kreme x Barbie” สาวกบาร์บี้ไม่ควรพลาด!!
มันจะมีทำเลนึงที่ผมคิดว่า เรียก ‘เอกมัย-ทองหล่อ‘ ได้อย่างไม่ขัดเขิน และมันเป็นที่ตั้งของ ‘Reference Ekkamai’ คอนโดใหม่จาก ‘SC Asset’ นี่แหละ