ผมละชอบจริง ๆ เวลาเจอบ้านที่ออกแบบมาให้เหมาะกับประเทศไทย มองแล้วรู้สึกว่าอยู่ไปยาว ๆ แล้วน่าจะมีปัญหาตามมาน้อยที่สุด
เพราะเมืองไทยมี "ภูมิอากาศแบบร้อนชื้น"
หลายคนฝืนธรรมชาติเพราะเห็น "ความสวยงาม" เป็นเรื่องสำคัญกว่าฟังก์ชั่น แล้วค่อยมาตั้งคำถามว่าจะทำยังไงให้บ้านที่สวยนั้นไม่เกิดปัญหา 555
“วี บรีธ ชัยพฤกษ์-ไทรน้อย" เป็นอีกโครงการบ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์นทรอปิคอลที่ผมได้ไปชมมาแล้วบอกได้คำเดียวเลยว่า 'สวยจนใจละลาย'
ตัวบ้านไม่ได้เป็นบ้านทรงไทยอะไร แต่ออกแบบทุกจุดให้ผสมผสานความโมเดิร์น ดูแล้วตอบรับกับการอยู่อาศัยในเมืองร้อนชื้นอย่างประเทศไทยมาก
ด้วยแนวคิดหลักของโครงการที่ต้องการเชื่อมระหว่างธรรมชาติและความลงตัวของการอยู่อาศัย ทำให้แค่มองก็รู้ว่ามีอัตลักษณ์ของการดีไซน์ที่โดดเด่น
อันที่จริงแล้วนิยามคำว่า "บ้านสวย" ที่ผมกล่าวไปตอนต้นนั้นไม่ได้โจมตีสไตล์บ้านแบบอื่น ๆ นะ เพราะถ้ามีคุณภาพการก่อสร้างที่ดีก็อาจจะไม่มีปัญหาก็ได้
แต่สิ่งที่ผมว่าโครงการนี้เค้าเหมาะกับเมืองไทยจริง ๆ มันไม่ใช่แค่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกของบ้าน แต่มันยังรวมไปถึงพื้นที่ภายในด้วย
เพราะทุกวันนี้เมืองไทยเราร้อนขึ้นทุกวัน เดือนเมษาที่ผ่านมานี้ก็เกือบแตะ 50 องศาเข้าไปแล้ว ถ้าบ้านอยู่แล้วก็ต้องช่วยแก้ปัญหาเมื่ออยู่ในบ้านได้
ซึ่งบ้านที่ วี บรีธ ชัยพฤกษ์-ไทรน้อย เค้ามีไฮไลท์ที่น่าสนใจตรงที่มาพร้อม DOUBLE VOLUME LIVING ROOM สูงถึง 6 เมตร
อันนี้ดีเลยนะ เพราะการที่บ้านมีพื้นที่โล่งภายในบ้านเยอะก็จะช่วยให้เกิดการระบายอากาศได้ดี เพราะเพิ่มระยะห่างระหว่างพื้นที่ใช้สอยกับหลังคา บ้านก็จะเย็นมากขึ้น
โดยพื้นที่เพดานสูงนี้เค้าออกแบบมาเป็นพื้นที่ Common Area เชื่อมต่อการใช้ชีวิตภายในและภายนอก สามารถมองไปเห็น Courtyard กลางบ้านได้
อันนี้ก็ดีไม่แพ้กันนะ เพราะนอกจากจะช่วยให้เกิดความสวยงามแล้ว ยังช่วยให้รับแสงจากธรรรมชาติได้เยอะ ช่วยประหยัดไฟได้ด้วย
ผมชอบที่เค้าออกแบบให้ช่องแสงรองรับกับการใช้งาน เดินดูแล้วจะเห็นได้เลยว่าไม่ได้มีแสงที่ตกลงมากระทบกับพื้นที่ใช้สอยโดยตรง อยู่แล้วไม่ร้อน ไม่อบอ้าวรองรับทุกกิจกรรมในครอบครัว
แถมบรรยากาศรอบ ๆ โครงการก็ยังมีความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนบ้านในโครงการ เพียง 63 ครอบครัวเท่านั้น
ตอบโจทย์กลุ่มผู้อยู่อาศัยที่ต้องการความสงบเป็นส่วนตัว ผมว่าเนี่ยแหละคือจุดเด่นที่เพิ่มศักยภาพของตัวโครงการให้สามารถแข่งขันในตลาดโซนนี้ได้ครับ
เล่าความรู้สึกไปซะเยอะ ทีนี้เรามาดูข้อมูลโครงการกันบ้างครับ อย่างที่ผมได้บอกไปตอนต้นว่าทั้งโครงการมีเพียง 63 ยูนิต แต่ตั้งอยู่บนพื้นที่มากถึง 17 ไร่เลยครับ
รูปแบบบ้านในโครงการจะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นทั้งหมดครับ แต่มีแบบบ้านให้เลือกด้วยกัน 2 แบบคือ WILLOW และ HAZELNUT
WILLOW
HAZELNUT
ซึ่งแบบบ้านทั้งสองก็มีความคล้ายคลึงกัน เพราะทั้งคู่ออกแบบมาในสไตล์ Modern Tropical ดีไซน์เน้นความโปร่งโล่ง สบาย
และที่ผมชอบมากที่สุดคือระบายความร้อนได้ดีด้วยโถง Double Volume พร้อมพื้นที่ Courtyard ส่วนตัวอย่างที่เล่าไปตอนต้นบทความนั่นเอง
ภายในโครงการแม้จะมียูนิตน้อยแต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน ไม่ว่าจะเป็นคลับเฮาส์ Lobby Co-Working Space สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่ ห้องฟิตเนส
รวมถึงพื้นที่สีเขียวแบบจุใจ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยในการคัดกรองลูกบ้าน ด้วยการเข้า-ออกโครงการผ่านระบบ Easy Pass
และขาดไม่ได้คือมีการติดตั้งกล้อง CCTV ทั่วทั้งโครงการและมีเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ด้วยครับ
สำหรับที่ตั้งโครงการ “วี บรีธ ชัยพฤกษ์-ไทรน้อย" นั้นผมว่าอยู่ในทำเลที่มีความคล่องตัวสูง สามารถเชื่อมต่อถนนบางกรวย-ไทรน้อยได้ในระยะเพียง 2.5 กม.
ที่สำคัญคือจากจุดที่ตั้งโครงการนี้สามารถเข้าสู่ตัวเมืองได้ง่าย รวดเร็ว ด้วยถนนกาญจนาภิเษกวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตก ไม่ไกลจากจุดขึ้น-ลง ทางด่วนศรีรัช
และถ้าใครที่ชอบการเดินทางด้วยรถสาธารณะ จากโครงการก็ยังใกล้รถไฟฟ้า MRT คลองบางไผ่เพียง 20 นาทีเท่านั้นเองด้วย
เอาเป็นว่าใครที่กำลังมองหาบ้านโซนนนทบุรี โดยเฉพาะบนเส้นชัยพฤกษ์-ไทรน้อย ผมคิดว่าโครงการ “วี บรีธ ชัยพฤกษ์-ไทรน้อย" อาจเป็นตัวเลือกที่เข้าตาของเพื่อน ๆ
ตัวบ้านมีความสวยงาม ฟังก์ชั่นออกแบบมาดี เหมาะทั้งรูปแบบการใช้งานและภูมิอากาศของประเทศไทย สามารถอยู่ได้อย่างยาว ๆ ไม่มีเบื่อ
แถมยังมีความเป็นส่วนตัวสูงเพราะทั้งโครงการมียูนิตจำนวนไม่เยอะ ใครสนใจก็ลองแวะเวียนไปเยี่ยมชมที่โครงการกันดูนะค้าบบบบ
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ