พูดถึงห้างเก่า ห้างแก่ ย่านฝั่งธนฯ ผมว่าหนึ่งในห้างที่หลายคนนึกถึงต้องมี เดอะมอลล์ ท่าพระ เป็นแน่แท้

        ย้อนไปเมื่อ 20-30 ปีก่อน ต้องยอมรับจริงๆ ว่าห้างใหญ่ๆ ฝั่งธนบุรีของเรานั้นมีไม่มากนักหากเทียบกับสมัยนี้ การมาเยือนของ เดอะมอลล์ ท่าพระ จึงกลายเป็นสิ่งที่ค่อนข้างน่าตื่นตาสำปรับคนฝั่งธนฯ ในสมัยนั้นเป็นอย่างมากเลยฮะ

        แต่เมื่อเวลาผ่านไป การมาของห้างอื่นๆ ในละแวกใกล้เคียง อาจจะทำให้เดอะมอลล์ ท่าพระ ที่เคยเก๋าหรือทันสมัยที่สุดในฝั่งธนฯ อาจจะไม่คึกคักเหมือนสมัยก่อน แต่ถ้าใครได้ตามข่าวเดอะมอลล์ฯ คงทราบกันแล้วใช่ไหมครับว่า เดอะมอลล์ กรุ๊ป เค้าทำการ รีแบรนด์ดิ้งปรับโฉม "เดอะมอลล์" ในรูปแบบใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม ตามแผนโรดแมป 5 ปีนั่นเอง

        ซึ่งสาขาแรกที่ทางเดอะมอลล์ ทำการรีโนแวท เป็น เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน นั่นเองครับ แต่วันนี้ผมจะพาทุกคนไป เดอะมอลล์ ท่าพระ กันตาม ที่เกริ่นไว้ตอนต้นเลยฮะ เพราะท่าพระอยู่ใกล้บ้านผมมากกว่า 5555

        จะว่าไปก็ตื่นเต้นบวกเห่อๆ แหละ เพราะผมเองก็ไปเดินเล่นที่ "เดอะมอลล์ ท่าพระ" มาบ่อยอยู่นะ เพราะมันใกล้บ้านอย่างที่บอก พอเห็นข่าวว่าเค้าจะทำใหม่ ไอเราก็ตื่นเต้นกับเค้าไปด้วย จะบอกว่าการแปลงโฉมเดอะมอลล์ ท่าพระ ครั้งนี้เค้าทุ่มงบ 3,000  ล้านบาท เลยทีเดียวเชียว

        ซึ่งสาขาท่าพระเพิ่งเปิดหลังจากที่รีโนเวทไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม นี้เองครับ ในชื่อใหม่ว่า "เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ" ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดที่ถูกเวลามากกก เพราะเป็นช่วงเวลาที่มีการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown แล้วนั่นเองฮะ คนแน่นอยู่นะ ว่าบาป

        และใช่ครับมันเป็นช่วงเวลาสิ้นปีแห่งความสุขด้วยเพราะประจวบเหมาะกับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ซึ่งเทศกาลพวกนี้แหละที่ประชาชน คนรักการช้อปอย่างเรามักจะเสียเงินมากที่สุดในรอบปี 5555 ซึ่งก็เป็นไปตามคาดฮะ "เดอะมอลล์ ท่าพระ" เลยเปิดบ้านมาด้วยธีม "คริสต์มาส" เลยทีเดียวเชียว

        "เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ" รูปแบบใหม่เค้ามาภายใต้คอนเซ็ปต์ “URBAN PLAYGROUND” สร้างพื้นที่แห่งความสนุก สุขทุกการใช้ชีวิตสำหรับทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะกิน ช้อป ชิลล์ หรือ เอนเตอร์เทนเมนต์ครบจบที่เดียว 

        สัญลักษณ์ เดอะมอลล์ ที่คุ้นตาเปลี่ยนเป็นตัวเอ็มตัวเบอเร่อเลย อันนี้ถ่ายจากสถานี BTS ตลาดพลูนะ

        ภายนอกเดอะมอลล์ปรับใหม่หมดเลยครับ เค้าตกแต่งใหม่เน้นสีสัน ดูแล้วมีชีวิตชีวากว่าเมื่อก่อนมากๆ มีคนมาถ่ายรูปเยอะเลย พวกกับเดอะมอลล์ทำการตกแต่งในธีมเทศกาลสิ้นปี ด้วยการนำเอาต้นคริสต์มาสต้นใหญ่มาวางประดับ มีจุดให้เช็คอินกันตั้งแต่หน้าห้างเลยทีเดียว

        เข้ามาในห้างนี่สัมผัสได้ถึงความทันสมัยเลย เค้าปรับเปลี่ยนโซนได้ดีมากๆ ชั้นล่างสุดคือ ชั้น B เป็นชั้น WORLD CLASS GOURMET DESTINATION ชั้นนี้ก็จะมี GOURMET MARKETกับ GOURMET EATS, CAFE & RESTAURANTS แต่ก่อนจำได้ว่าเข้าเดอะ มอลล์ ลงชั้นล่างมากินข้าว บรรยากาศมันจะดูทึบๆ  แต่ตอนนี้แทบไม่เหลือเค้าเดิมเลยครับ ร้านค้าแต่ละร้านจัดโซนได้เหมาะมาก ทำให้ภายในห้างดูกว้างขึ้น ที่สำคัญสว่างสดใส ตกแต่งแล้วดูหรูหราสวยงามมากครับ

        ขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้น G  ซึ่งชั้นนี้น่าจะเป็นชั้นที่สาวๆ คงหลงใหลได้ปลื้มกันครับ เพราะจะมีร้านรวงเกี่ยวกับความงามมากมายเลย เพราะเป็นชั้น WORLD’S BEAUTY & FASHION ซึ่งจะมีทั้ง BEAUTY HALL, UNIQLO , WOMEN’S FASHION, SHOES & BAG SALON, ACCESSORIES BAZAAR, BEAUTY SERVICE รวบรวมแบรนด์เครื่องสำอางและน้ำหอมชั้นนำระดับโลกแบบครบครันพร้อมแบรนด์ดังกว่า 100 แบรนด์และบิวตี้ไอเทมมากมายเลยครับ อาทิ CHANEL, M.A.C, NARS, LAURA MERCIER, SULWHASOO, THE HISTORY OF WHOO, THREE และ CHAT COSMETIC ฯลฯ ที่สำคัญเค้ามี โซน Shopping Assistant ไว้ให้บริการด้วยครับไม่แน่ใจว่าเค้าจัดที่นั่งเอาไว้ให้คุณผู้ชายนั่งรอหรือเปล่านะ 5555 ก็เก๋กู๊ดเลยฮะชั้นนี้

        มาต่อกันที่ชั้น 1 หลังจากเอาใจสาวๆ ไปแล้วชั้นนี้จะเป็นชั้นที่เอาใจหนุ่มๆ กันบ้างครับเพราะเป็นชั้น  MEN’S FASHION & LIFESTYLE ประกอบด้วย MEN’S FASHION, SPORTSMALL, WATCH GALLERIA, LIFESTYLE รวมถึง SPORTSMALL ด้วย มีหลายแบรนด์ชั้นนำเลยครับ ทั้ง ADIDAS, NIKE, SKECHERS รวมถึงร้านแบบ Flagship Store อาทิ UNDER ARMOUR, PUMA, FILA, ASICS, MIZUNO, NEW BALANCE, CROCS, REV RUNNR นอกจากนี้ชั้นนี้ยังเป็นสวรรค์ของเหล่าคนรักนาฬิกาด้วยนะครับก็จะมีโซน WATCH GALLERIA มีหลายแบรนด์เลย เรียกได้ว่ามาที่นี่มีครบเลย เพราะมีแบรนด์หลายแบรนด์ตบเท้าเข้าครองพื้นที่เยอะจริงๆ อ้อ ลืมบอกว่าชั้นนี้เค้ามี EVEANDBOY ด้วยนะ สาวๆ คงรู้จักร้านนี้เป็นอย่างดีแน่นอน เป็นสาขาที่ใหญ่พอสมควรเลยฮะ

        มาต่อกันที่ ชั้น 2 ชั้นนี้เอาใจสาวกคนรักบ้านเพราะเป็นชั้น  HOME & CREATIVE TECHNOLOGY จะมีทั้ง POWER MALL, BE TREND, THE LIVING รวบรวมทั้งแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ และไอที นอกจากนี้ยังมี BE STATIONERY ที่เป็นโซนเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน แล้วก็ BE GADGET ของขวัญไลฟ์สไตล์และ Gadget BE GIFT โซนของขวัญและ BE BOOK โซนรวบรวมหนังสือจากร้านหนังสือนายอินทร์

        ชั้น 3  FAMILY & LIFE SOLUTIONS เป็นชั้นที่ผมชอบมากที่สุดเพราะเป็นชั้นของกิน 5555 ก็มีทั้ง มีร้านดังหลายร้านมากครับ อาทิ ณ คลองวาฬ, Farmfactory, Coco Ichibanya, Bonchon, Bar B Q Plaza, Hachiban Ramen, Redsun, Misawa Osaka Tonkotsu, Kofuku, Ootoya, MK, Santafe, Seoulchon ฯลฯ เห็นไวนิลร้าน Sushiro จะมาเปิดเร็วๆ นี้ด้วยนะครับ

        ชั้น 3 นอกจากของกินแล้วชั้นนี้ยังเป็นชั้น Digital Park ด้วยก็จะมีพวกร้านค้าประเภทไอทีเยอะเลย ทั้ง Studio 7, MI นอกจากนี้ยังมี Harborland เอาใจเหล่าเด็กๆ อ้อ พวกคลินิกเสริมความงาม ธนาคาร และช้อปค่ายมือถือก็อยู่ชั้นนี้เช่นกัน ที่สำคัญชั้นนี้ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์เป็น มุมสำหรับนั่งพักผ่อนใครเดินช้อปมาแล้วเมื่อยๆ ขึ้นมาหย่อนก้นพักผ่อนถ่ายรูปชิลๆ ได้ โดยมุมนี้อยู่ใกล้ๆ กับ Harborland เลยครับ

        และชั้นสุดท้ายชั้นที่ 4 ชั้นนี้จะเป็นชั้นโรงหนัง แน่นอนครับว่าถ้าเป็น เดอะมอลล์ โรงหนังในเครือก็ต้องเป็น SF นั่นเอง ชั้นนี้เค้าก็มีปรับเหมือนกันนะ คอนเซ็ปต์ใหม่ครั้งนี้มารูปแบบ Luxury Loft (มีคาเฟ่ด้วยนะ)

        หลังจากเปิดมา 32 ปี การเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งนี้เรียกได้ว่า "เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ" กลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีจริงๆ น่าเดินกว่าเดิมเยอะมากกกก ต้องขอชื่นชมเลยว่าเค้าทำการบ้านมาดีจริงๆ ไม่เพียงแต่มีร้านค้าใหม่ๆ เข้ามาเปิดเยอะเท่านั้น แต่ที่ผมชอบคือห้างมีมุมพักผ่อน หรือมุมเอาไว้อำนวยความสะดวกเยอะ มีแทบทุกชั้นเลย ถือว่าเป็นการก้ามตามโลกและยุคสมัยแบบตอบโจทย์มากๆ 

        ในแง่ของการตกแต่ง บอกเลยครับว่าที่นี่จะเป็นอีกจุดเช็คอินที่ชาวฝั่งธนฯ ใช้บ่อยเป็นแน่แท้ เพราะมีมุมสวยๆ ไว้แชะรูปอัพเดตบนโซเชี่ยลเยอะจริงๆ น่าจะเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญอีกแห่งของชาวฝั่งธนฯ แน่นอนครับ เอาเป็นว่าหลังจากนี้ "เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ" คงเป็นอีกหนึ่งห้างในใจที่ผมคงได้มาใช้บริการบ่อยแน่นอน ชอบมว้ากกก