เรียกได้ว่าเป็นเมนูฮอตฮิตที่มาแรงชั่วข้ามคืนกันเลยทีเดียวสำหรับ “แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย” ที่เป็นประเด็นดราม่าจากเน็ตไอดอลชื่อดัง 555

 

        ผมเองที่เป็นสายกินอยู่แล้วพอเห็นกระแสนี้มาสิ่งแรงที่สนใจก็คือ... แกงเขียวหวานแม่งน่ากินจังวะ!

 

        ด้วยความที่มันเป็นหนึ่งในเมนูประจำชาติคู่บ้านคู่เมืองของเราและเป็นเมนูโปรดของหลาย ๆ คน ทำให้พอเกิดกระแสขึ้นมาแล้วในโลกโซเชียลของผมมีแกงเขียวหวานจากหลาย ๆ บ้านมาประชันกันเต็มหน้าฟีดไปหมด


 

        ช่วงวันแรกที่เห็นก็พออดใจไหวนะ เพราะมีเสบียงอื่นเต็มตู้เตรียมพร้อมกักตัวอยู่ไปอีกเป็นเดือน ๆ อยู่แล้ว แต่พอเห็นบ่อย ๆ เข้ามันก็เริ่มอดใจไม่ไหว

 

        และสุดท้ายก็บอกกับตัวเองว่า... วันนี้ต้องได้กินเขียวหวาน!!!

 

        ครั้นจะหาร้านแถวบ้าน หรือสั่งเดลิเวอรี่มาส่งก็กลัวจะไม่เข้มข้นดั่งใจ เพราะบางร้านที่เคยกินก็หวานสมชื่อแกงจนนึกว่ากินขนมหวานซะอย่างนั้น

 

        แล้วแล้วด้วยสตอรี่ทั้งหมดที่เล่ามาก็เลยทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการทำกินเองซะเลย แค่แกงเขียวหวานนะเหรอ เพจของกินอย่างเราบอกเลยว่าสบ๊ายยย~

 

        ซึ่งถ้าทำแล้วกินเฉย ๆ มันก็คงจะไม่สนุก เลยขอเอามาอวดเพื่อน ๆ แฟนเพจที่ส่วนใหญ่ก็เป็นสายกินอย่างผมด้วยซะเลย ฮ่า ๆๆๆ

 

        แถมเพิ่มให้อีกนิดตรงที่เมนูที่มันทำเองก็ได้แบบนี้ ถ้าเรามาคิดราคาต้นทุนดูแล้วมันจะอยู่ที่เท่าไหร่กันนะ จะเทียบเท่า #แกงเขียวหวาน250 มั้ยนะ?

 

        อย่ามัวเสียเวลา... น้ำย่อยไหลหลากเป็นน้ำป่าตอนหน้าฝนขนาดนี้ มาเริ่มทำกันเลยดีกว่า ซึ่งแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายนี่ก็ทำได้ไม่ยากนะ วัตถุดิบส่วนใหญ่ก็พื้นบ้านหาได้ในประเทศไทย

 

 

 

        *เครื่องปรุงในบ้านผมไม่รู้จะคิดราคายังไง ขออนุญาติเหมารวม ๆ ไป 10 บาท ละกันเนอะ

 

        รวมการจ่ายตลาดสำหรับ "แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย" เสียเงินทั้งหมด 168 บาท แต่ปริมาณของที่ได้นี่ผมว่าเยอะเอาเรื่องแหะ น่าจะได้ 1 หม้อย่อม ๆ เลยล่ะ

 

 

        1. ก่อนอื่นลวกปลากรายให้สุกกันก่อนเลย ปั้นเป็นกลม ๆ หรือถ้าใครอยากใส่ความรักลงไปในอาหารจะปั้นเป็นรูปหัวใจก็ไม่มีใครว่า ลวกน้ำทิ้ง 1 รอบ แล้วลวกอีกซักรอบเพื่อความมั่นใจ จะได้ไม่คาวเนอะ

 

        เนื้อสัตว์เนี่ยเพื่อน ๆ สามารถเปลี่ยนเป็นเนื้อสัตว์อื่น ๆ ที่เพื่อน ๆ ชอบก็ได้นะ จะเป็นไก่ เป็นหมู หรือเป็นอะไรก็เลือกเอาที่ชอบ ที่อยากให้ถูกปาก ถุกใจกันได้เลยค้าบบบ


 

        2. หลังจากนั้นก็เตรียมแกงด้วยการตั้งกระทะ ใส่น้ำมันนิดหน่อยพอ เดี๋ยวจะอ้วน แล้วก็ใส่พริกแกงเขียวหวานลงไป ค่อย ๆ ผัดโดยใช้ไฟอ่อน จนมีกลิ่นหอมก็ถือเป็นอันใช้ได้ ระวังไหม้กันด้วยล่ะ

 

 

 

        3. ค่อย ๆ ใส่กะทิในพริกแกง แล้วผัดไปเรื่อย ๆ จนกะทิแตกมันดี สีสันเขียวเหลืองสดใสก็เร่งไฟแรงต่อเลย

 

        สำหรับใครที่กลัวอ้วนหรือไม่ชอบความมันจนเกินไปของกะทิ จะเปลี่ยนเป็นนมวัวหรือหรือนมชนิดอื่น ๆ ก็ได้นะ ผมเคยลองทำแกงกะทิอื่น ๆ ด้วยนมก็อร่อยดีเหมือนกัน



        4. จากนั่นใส่ปลากรายให้ลงไปให้น้องได้แหวกว่ายรับน้ำแกงกันสักพัก

 

        5. ใบมะกรูดลงไปเพิ่มความหอมหน่อย ถ้าใครชอบกระชายที่เป็นเส้น จะใส่ลงไปด้วยก็ใส่ในขั้นตอนนี้ได้เลย (แต่ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบ เลยไม่ใส่ 555) เสร็จแล้วเติมน้ำซุปเล็กน้อยเอาไว้ซดให้ชื่นใจ 555

 

 

        7. ต่อด้วยการปรุงรสชาติจากเครื่องปรุงที่เตรียมไว้เลย น้ำปลา น้ำตาล สูตรของผมนี่ผมว่ากำลังดีละ ถ้าใครชอบเค็ม ชอบหวานกว่านี้ก็เพิ่มเติมให้ได้รสที่ชอบ จัดไปปป

 

 

        8. โรยใบโหระพา ใส่พริกแดงปิดท้าย ที่ผมใส่หลังปิดไฟก็เพราะจะได้ไม่ดำและเหี่ยวจนไม่น่ากิน หลังจากนั้นก็จบปึ้ง เสร็จเรียบร้อย!!!

 

        เสร็จเรียบร้อยแล้วสำหรับเมนู “แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย” ทำกันเองได้ง่าย ๆ เลยใช่มั้ยล่ะ บอกแล้วว่าเป็นเมนูที่ทำกันเองได้ง่าย ๆ อยู่คอนโดเบื่อ ๆ ก็ทำกินเองได้

 

        สูตรนี้บอกเลยว่าใครกินก็ตะลึง รสชาติเป๊ะแน่นอนเพราะผมทำให้ที่บ้านกินนี่ตะลึงยกบ้านมาแล้ว กลมกล่อมเข้มข้น ลูกชิ้นเด้ง ๆ กินได้ทั้งครอบครัว

 

        ที่สำคัญวัตถุดิบและต้นทุนราคาทั้งหมดที่ผมคิดมาให้ดูนี่เป็นสำหรับ 1 หม้อย่อม ๆ ซึ่งกินจริง ๆ ก็ได้ถึง 2-3 ชาม ผมลองคำนวณออกมาเรียกได้ว่าคุ้มจนลืมคำว่าอิ่มกันเลยล่ะ

 

        ค่าวัตถุดิบทั้งหมด 168 บาท ค่าแก๊สที่ไม่รู้จะคิดยังไงตีไป 10 บาท รวมเบ็ดเสร็จ 178 บาท ได้ทั้งหมด 2 ชามใหญ่ หารแล้วตกชามละ 89 บาท ส่วนค่าตัว ค่าแรง ค่าเหนื่อยแล้วแต่คน ไปบวกเพิ่มกันเอง 55555

 

        เพิ่มความอยากกินของเพื่อน ๆ อีกระดับด้วยการมาดูประโยชน์ของแกงเขียวหวานกันดีกว่า อย่างที่รู้กันว่าจุดเด่นด้านคุณค่าทางโภชนาการของแกงเขียวหวานนั้นมากมาย

 

        ทั้งนี้ก็เพราะประกอบด้วยโปรตีน ไขมัน ในปริมาณพอสมควร ใยอาหารสูง โดยมาจากมะเขือและส่วนผสมในเครื่องแกง

 

        สถานการณ์แบบนี้... เรายังไม่รู้ว่าจะต้องกักตัวกันอยู่ที่บ้านอีกนานแค่ไหน พรก.ฉุกเฉินก็ขยายต่อออกมาอีกเดือน สั่งมากินตลอดก็คงจะไม่ไหว

 

        นอกจากนี้การออกจากบ้านเท่าที่จำเป็นผมว่าถือว่าเป็นการช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ดีที่สุดแล้วนะ คนติดเชื้อน้อยลงทุกที สถานการณ์จะได้กลับมาปกติไว ๆ อย่าให้ยอดติดเชื้อกลับมาพุ่ง 2 หลักอีกเลย

 

        ตอนนี้การทำอาหารทานเองที่บ้าน ก็เป็นอีกวิธีที่เหมาะสมกับสถานการณ์ตอนนี้ นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงในการออกไปหาซื้อนอกบ้าน ยังช่วยประหยัดเงินอีกด้วยนะเออ

 

        ส่วนเรื่องดราม่าทั้งหลายนี่ผมตาม ๆ ดูก็แอบอินกับเค้าอยู่เหมือนกันนะ เอาเป็นว่าใครสะดวกสั่งกินก็สั่ง แต่ถ้ากลัวสั่งแกงแล้วโดนแกง ทำกินเองแบบผมนี่ก็สบายใจดี

 

        รสชาติไม่รู้จะโดนใจเพื่อน ๆ เหมือนกินรสมือแม่บายหม่าม๊าหรือเปล่า แต่รับรองว่าสูตรนี้ก็รสดีไม่แพ้ใคร คิดซะว่าเป็น "รสมือเพื่อนบายติดดอย" ก็แล้วกัน

 

        อย่างน้อยก็ไม่ต้องไปนั่งลุ้นว่าเจ้าไหนจะอร่อยหรือไม่อร่อย เพราะถึงยังไงมันก็ฝีมือเราเอง เราก็ต้องว่าของเราดีอยู่แล้วนี่เนอะ ฮ่า ๆๆๆ

 

        เพื่อน ๆ คนไหน มีสูตรอาหารอยากแบ่งปันพี่หมี และ เพื่อน ๆ ที่กำลังกักตัวกันอยู่ในตอนนี้ ก็เอามาแบ่งปันกันได้นะ เอารูปแกงเขียวหวานสูตรที่บ้านมาโชว์ก็ได้ 555