ปัจจุบันพอได้ยินคำว่า 'รักษ์โลก' แล้วรู้สึกยังไงบ้างครับ?

        ถ้าย้อนไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน โอเคล่ะ คำนี้คงเป็นคำที่ฟังดูเป็นเทรนด์ ที่มาพร้อมกับคำว่า 'ภาวะโลกร้อน' ช่วงที่ชาวโลกเพิ่งตระหนักว่า โลกใบนี้กำลังเผชิญสถานการณ์วิกฤติสภาพภูมิอากาศ แถมช่วงแรกๆ บางคนยังคิดว่า 'โลกร้อน' คือทฤษฎีสมคบคิดก็มีนะ

        จริงๆ จะบอกว่าคำว่า 'โลกร้อน' ที่มาพร้อมหลายๆ แคมเปญที่ใช้ชื่อว่า 'รักษ์โลก' เป็นคำที่ถูกผลิตซ้ำจนหลายคนอาจจะเอือม 

        แต่ต้องบอกเลยว่าช่วงไม่กี่ขวบปีที่ผ่านมา วิกฤติโลกร้อนสิ่งเหล่านี้กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนปัจจุบันที่คำใหม่ที่ฟังดูแล้วน่ากลัวกว่าเดิม นั่นก็คือคำว่า 'โลกเดือด' นั่นเอง

        ด้วยสถานการณ์ภูมิอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มนุษย์อย่างเรา ก็ต้องเริ่มปรับตัวเพื่อให้อาศัยอยู่ในโลกเดือดๆ ใบนี้ให้สบายมากขึ้นครับ

        เราจะเริ่มเห็นโครงการอสังหาฯ หลายๆ โครงการที่ออกแบบมาให้สามารถระบายความร้อนต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น หรือบางประเทศถึงขั้นออกกฎหมายให้มีโซนพื้นที่สีเขียวในอาคารก็มีนะ ที่รู้ๆ คือประเทศสิงคโปร์แล้วหนึ่ง

        ล่าสุดกับโครงการ  'Marion Park Masterplan'ที่แคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งโครงการนี้มีการออกแบบที่น่าสนใจมากครับ 

        ออกแบบโดย 'Contreras Earl Architecture' ซึ่งโครงการ Marion Park เค้าเป็นโครงการที่มาในรูปแบบของ Mixed-use complex มีแนวทางในการออกแบบเมืองที่ยั่งยืน ซึ่งอยู่ในแผนการแผนการปรับปรุงเมืองของรัฐบาลออสเตรเลียอีกด้วย

        โดยตัวอาคาร 'Marion Park Masterplan' ตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการประมาณ 12 ไร่กว่าๆ โดยจะมาในรูปแบบของอาคารสูง 5 อาคารเชื่อมต่อกันผ่านระเบียงแนวนอน ซึ่งมีการออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวตลอดแนวทางเดิน ทำให้พื้นที่ตรงนี้กลายเป็นสวนโดยธรรมชาติ 

        นอกจากนี้ยังมีจำนวนห้องพักอาศัยจำนวน 456 ยูนิตซึ่งกระจายอยู่ในอาคารทั้ง 5 อาคาร มาพร้อม พื้นที่สำหรับร้านค้าหรืออาคารพาณิชย์ พื้นที่ค้าปลีก ศูนย์ชุมชน หรือ Community center รวมถึงพื้นที่สาธารณะกลางแจ้ง ซึ่งจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ทั้งผู้อยู่อาศัยในโครงการ และผู้คนภายนอก รวมถึงการสร้างที่แห่งนี้ให้เป็นแหล่งงานอีกด้วย

        อีกทั้งในโครงการแห่งนี้เลือกใช้พลังงานแสงอาทิตย์หรือ Solar cell มาใช้เป็นในโครงการ ตามแผน Net Zero โดยใช้พลังงานหมุนเวียน100% ในการจ่ายพลังงานให้กับระบบไฟฟ้าทั้งหมด

        การออกแบบประกอบด้วยการจัดสวนที่กว้างขวาง การสร้างพื้นที่หลังคาสีเขียว และ "ฟองน้ำในเมือง" หรือ "urban sponge" สำหรับการจัดการน้ำฝนเพื่อปรับปรุงความหลากหลายทางชีวภาพ สามารถช่วยลดผลกระทบจากปรากฏการณ์เกาะความร้อนในเมืองได้

        ในขณะที่หลักการออกแบบในรูปแบบของ 'Passive Design' ยังช่วยลดความจำเป็นในการทำความร้อน และ ความเย็นลงอย่างมาก อีกทั้งยังมีการเลือกใช้วัสดุที่มีความยั่งยืนอีกด้วย

        จริงๆ เท่าที่ผมหาอ่านมา แนวคิดการสร้าง Mixed-use complex แบบนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่จริงๆ ในวงการอสังหา เพราะโครงการคล้ายๆ แบบนี้บ้านเราก็มีหลายโครงการแล้วนะ

        แต่อยากหยิบยกเอามาให้ดูครับว่ายุคสมัยนี้ คำว่ารักษ์โลก ไม่ใช่เพียงแค่คำพูดเท่ๆ เอาไว้พูดให้ดูเป็นคนคูลๆ อย่างเดียว แต่สถานการณ์โลกตอนนี้ เป็นสิ่งเร้าที่ทำให้เราทุกคนต้องหันมาใส่ใจเรื่องนี้กันมากขึ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งหนึ่งในปัจจัย 4 ของชีวิตอย่างที่อยู่อาศัยนั่นเองครับ

Source : Parametric Architecture : thinkingthefuture.com : contrerasearl.com