เวนิโอ (VENIO) สุขุมวิท 10
เป็นโครงการที่ผมได้ยินมานานร่วม 2 ปีได้แล้วครับ แต่ก็เพิ่งจะเปิดขายไปเมื่อปีที่แล้ว แต่เดิมนั้น มีข่าวว่าจะใช้ แบรนด์ แอสตัน เรซิเด้นซ์ (Ashton Residence) แต่สุดท้ายก็กลายเป็น เวนิโอ (VENIO) ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่โดยมี เฮลิกซ์ (Helix) บริษัทในเครือของ Ananda เป็นผู้พัฒนา
ซึ่ง เฮลิกซ์ มีแผนที่จะเข้า SET ตลาดหลักทรัพย์ในปี
2018 จุดเด่น คือการทำต้นทุนให้ต่ำ ทำให้ราคาแข่งขัน
ทำได้ดี มาดูกันต่อว่า เวนิโอ (VENIO) มาจากไหน
คำว่า VENIO นั้นมาจากคำว่า "Venue" บ่งบอกว่า
เป็นแบรนด์ที่จะพัฒนาแต่โครงการที่มีทำเลอยู่ใจกลางเมือง หรือถนนสายเศรษฐกิจเท่านั้น
เวนิโอ (VENIO) สุขุมวิท 10 วางตัวเองอยู่ในซอยสุขุมวิท 10 จากโครงการถึงปากซอยราว ๆ 400 เมตร
จากปากซอยเราอยู่ระหว่างรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) 2 สถานี คือ สถานีนานา กับสถานีอโศก แต่จะใกล้สถานีนานา
กว่าหน่อย ส่วนตัวผมชอบสถานีอโศกมากกว่านะ เวลากลับมาสามารถแวะ Terminal 21 ซื้อของกินของใช้
ได้เลย ถ้าเบื่อ Termail 21 ก็นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ตรงสถานีอโศกไป เซ็นทรัลพระรามเก้า ก็ยังได้
นอกจากเรื่องรถไฟฟ้าแล้ว
จุดเด่นอีกอย่างที่ผมชอบมาก ๆ คือ การที่เราสามารถเดินทะลุไป สวนเบญจกิติ ได้เลย
สวนเบญจกิติ เป็นสวนขนาดใหญ่ที่มีความร่มรื่นมากๆ มีเนื้อที่ถึง 130 ไร่ ในอนาคตจะได้พื้นที่จากโรงงานยาสูบเพิ่มด้วย กลายเป็นขนาด 320 ไร่ พื้นที่ที่เพิ่มเข้ามาจะทำเป็นสวนป่า ซึ่งเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกในกรุงเทพมหานครเลยครับที่มีสวนป่า จะมีทั้งทางเดินออกกำลังกาย ทางจักรยาน หอสมุดพิพิธภัณฑ์ ลานกีฬา อยู่ในสวนป่าด้วย และเพียงชั่วเวลาไม่กี่นาที เราก็สามารถเดินดูของจากมหกรรมสินค้าต่าง ๆ ที่แวะเวียนมาจัดที่ศูนย์สิริกิติ์ จากสวนเบญจกิติ จะมีทางจักรยาน และทางเดินเลียบคลองไผ่สิงห์โต ซึ่งเชื่อมจากสวนเบญจกิติไปถึงสวนลุมพินีได้เลย อะไรจะสะดวกขนาดนั้น
สวนลุมพินี เป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของไทยเราเลยนะครับ เปิดให้บริการให้คนไทยเรากันมานานมากแล้ว มีเนื้อที่มากถึง 360 ไร่ ชื่อของสวนนั้น รัชกาลที่ 7 ได้นำมาจาก สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ถ้าใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากสวนเบญจกิติ ก็สามารถมาที่สวนลุมพินีแทนได้เลยครับ
นอกจากทั้ง 2 สวนใหญ่ที่กล่าวมา ตรงปากซอยก็ยังมี
สวนชูวิทย์ ขนาด 6 ไร่อีกด้วย เผื่อใครก่อนเข้าบ้าน อยากแวะยืดเส้นยืดสาย พกอาหารมาทานในสวน ก็มีฟิลลิ่งที่ดีใช่ย่อย
ทั้ง 3 สวนนั้น เราสามารถพาครอบครัวมาพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างสบายๆ เสมือนเป็นพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ โดยที่เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลย จะมีสักกี่คอนโดละครับที่ทำได้แบบนี้
ในซอยอาจไม่ค่อยมีของกินเท่าไหร่
แต่ไม่เป็นไรครับ เพราะเราสามารถ
เดินทะลุโบสถ์ที่ติดกับโครงการไปยัง
ซอยสุขุุมวิท 8 ได้ครับ ซึ่งมีของกิน
เยอะทีเดียว เซเว่น อีเลฟเว่น
ก็มีถึง 2 สาขาแล้ว เพราะงั้นไม่ต้อง
ห่วงเรื่องปากท้องเลยจ้า
ไหน ๆ ก็เขียนถึงทางลัดแล้ว ตรงจุดนั้นยังมีอีกทางลัดที่ผมว่าสะดวกมากเลยล่ะ คือในชั่วโมงเร่งด่วน โรงงานยาสูบ
จะเปิดถนนพิเศษให้เราสามารถทะลุเข้าไป ทำให้เราสามารถออกมาทั้งถนนรัชดาหรือพระรามสี่ก็ได้ อันนี้ผมว่า
สำคัญนะ ทำให้ประหยัดเวลาในการเดินทางได้เยอะเลยล่ะครับ
"
ในแง่ของโครงการและราคา โดยปกติ
ตั้งแต่
Ananda มี
Helix จะมีมาตรฐาน
คุณภาพที่ดีอยู่แล้ว แต่กับ
VENIO รู้สึก
ว่าจะดีขึ้นมาอีกระดับ อาจจะเพราะเป็นแบรนด์
ที่ตั้งขึ้นมาใหม่ จึงมีความพิถีพิถันเป็นพิเศษ
ก็เป็นได้ครับ สถาปัตยกรรมทั้งภายนอก
และภายในเป็นแบบคลาสสิค โทนขาวดำ
เพดานสูง 2.6 เมตร โปร่งใช้ได้ ส่วนกลาง
ต่าง ๆ ขนาดไม่ใหญ่ แต่ก็มีครบครัน สวนจะ
ตกแต่งเป็นสไตล์อังกฤษ สวยดีครับ
"
ทั้งโครงการ มีจำนวนยูนิตแค่ 162 ยูนิต ผมว่าไม่พลุกพล่านดี แล้วด้วยความที่โครงการอยู่ในซอยตัน ก็ยิ่งดูสงบ
ส่วนราคาที่เปิดขายราว ๆ 150k/ตรม. ขายแบบ Fully Furnished เมื่อเทียบกับคอนโดในยุคนี้แล้ว ผมว่าเป็น
ราคาที่รับได้นะ ยิ่งถ้าหักค่าเฟอร์นิเจอร์ไป จะเหลือแค่ราว 130-140k/ตรม. ก็ยิ่งถูกเข้าไปใหญ่ ผมเชื่อว่า
ในอนาคต คงจะหาคอนโดราคาราวๆ นี้ ทำเลใจกลางเมืองได้ยากมาก เชื่อว่าเก็บไว้นานๆ ขายต่อกำไรเป็นกอบเป็นกำแน่ ๆ แค่เรื่องจุดเด่นในการเดินไปสวนเบญจกิติ ก็หาคู่แข่งได้ยากละครับ
จากทั้งหมดที่ได้กล่าวมา ผมถือว่าเป็นคอนโดหนึ่ง
ที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยเองเป็นอย่างมาก ถ้าคุณ
เป็นคนหนึ่งที่เล็งจะไปอยู่อาศัยในแถบนั้นแล้วมีงบ
ประมาณ 3.5-8 ล้านบาท ผมว่าอย่าปล่อยให้ตัวเองต้องพลาดโอกาสเลยครับ
ได้ข่าวมาว่า เหลือแค่ 10 กว่าห้องละครับ เป็นห้องแบบ
34 ตรม. ราคาประมาณ 5 ล้านบาท