ลงสตรีมมิ่งให้ชมกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับซีรีส์ตัวตึงประจำ Netflix อย่าง Stranger Things
การกลับมาในซีซั่นนี้มีความสเปเชี่ยลกว่าซีซั่นไหนๆ เพราะทำการแบ่งมาเราชมถึง 2 พาร์ท โดย Vol.2 เพิ่งปล่อยให้สตรีมมิ่งไปเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมาสดๆ ร้อนๆ
หากย้อนกลับไปช่วงกลางปี 2016 ซึ่งเป็นปีที่ซีรีส์เรื่องนี้ได้ทำการออกอากาศครั้งแรก ช่วงนั้นต้องบอกว่า Stranger Things เป็นซีรีส์ 'เรียกลูกค้า' ของ Netflix เลยก็ว่าได้ เพราะหลายๆ คนก็ตัดสินใจสมัคร Netflix เพราะอยากมาดูเรื่องนี้กันนี่แหละ
Stranger Things ไม่เพียงแต่เป็นซีรีส์แนววิทยาศาสตร์ ไซไฟ ระทึกขวัญ อะไรทำนองนั้นแค่เพียงอย่างเดียว เพราะซีรีส์เรื่องนี้ยังจัดอยู่ในกลุ่ม Coming of age อีกด้วย เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยฝ่าเสน่ห์อีกอย่างที่ของซีรีส์เรื่องนี้คือวิวัฒนาการของตัวละครทั้งทางกายภาพ และความคิดความอ่าน มันจึงให้ฟีลลิ่งแบบว่า โอเค ฉันโตมาพร้อมๆ กับตัวละครเหล่านี้แหละ
โดยปกติแล้วซีซั่นอื่นๆ มักจะได้ดูปีต่อปี หรือ สองปี แต่ซีซั่น 4 ฉีกออกไปครับ เพราะซีซั่นนี้นับว่าเป็นซีซั่นที่ต้องรอคอยนานที่สุด นับตั้งแต่ซีซั่น 3 ลงสตรีมมิ่งเมื่อปี 2019 ในซีซั่นนี้นอกจากระยะเวลาการถ่ายทำนานที่สุดแล้ว ยังเป็นซีซั่นที่ได้ทุนสร้างมากที่สุดในบรรดาทุกๆ ซีซั่น เพราะฉะนั้นการกลับมาครั้งนี้จึงต้องพิเศษกว่าซีซั่นไหนๆ
ความพิเศษแรกของซีซั่นนี้ที่ไม่พูดถึงไม่ได้นั่นก็คือวิธีการเล่าเรื่องครับ แบ่งออกเป็น 4 เส้นเรื่อง เป็นภาคที่เหล่าเดอะแก๊งค์ต้องเจอกับอุปสรรคที่ยากขึ้น การสูญเสียที่รับมือได้ยากขึ้นแล้ว ภาคนี้ยังเป็นภาคที่เฉลยปม จุดเริ่มต้นของเรื่องราวต่างๆ มีตัวละครใหม่ ตัวร้ายใหม่ และที่สำคัญยังเป็นตัวละครระดับลาสบอสอีกด้วย
**คำเตือน เนื้อหาต่อจากนี้อาจมีการสปอยล์
4 เส้นเรื่องในซีซั่นที่ 4 แบ่งออกเป็น เส้นเรื่องรัสเซีย ประเด็นหลักคือการช่วยเหลือจิวส์ ฮอปเปอร์ เส้นเรื่องของแอล (The Lab) เป็นเส้นเรื่องที่จะพาเราย้อนไปยังจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เหมือนเป็นภาคเฉลยตัวตนและเรื่องราวของสาวน้อยเลข 11 เส้นเรื่องของเมืองฮอว์กินส์ เหตุการณ์ประหลาดที่จู่ๆ ก็เกิดการเสียชีวิตอย่างน่าพิศวงของวัยรุ่นในเมือง และเป้าหมายคนต่อไปอย่างแม็กซ์ตัวละครที่ทำให้เราลุ้นว่าจะรอดหรือร่วงจนจบซีซั่น และเส้นเรื่องที่ 4 แคลิฟอร์เนีย กับการตามหาแอล เพิ่มความดราม่า เรื่องรัก(ข้างเดียว) ระหว่างไมค์และวิล และพ่วงมากับการขายของอย่าง Surfer Boy Pizza มาแบบเนียนๆ
ในเมื่อมีการแบ่งเส้นเรื่อง ก็ต้องมีการกระจายความโดดเด่นของตัวละครแตกต่างกันไป อย่างซีซั่นก่อนๆ แน่นอนว่าตัวเมนหลักของเรื่องนั้นหนีไม่พ้น 11 แต่ซีซั่นนี้เหมือนเป็นการปล่อยของ ให้กับตัวละครหลายๆ ตัว ซึ่งใน 4 เส้นเรื่องนี้ สำหรับผลแล้ว ความโดดเด่นและเข้มข้นคงหนีไม่พ้นเส้นเรื่องของเมืองแวคน่า ที่นอกจากจะลุ้นจนหยดสุดท้าย เส้นเรื่องนี้ยังส่งตัวละครใหม่ที่น่าจะเป็นจอมแย่งซีนประจำซีซั่นอย่าง "เอ็ดดี้ มันสัน" มาตกหัวใจแฟนซีรีส์กันแบบไม่ทันตั้งตัว หัวใจก็เอาไปให้ไอหนุ่มผมยาวคนนี้กันซะแล้ว
ความปังของภาค 4 ไม่เพียงแต่เส้นเรื่องและนักแสดงอย่างเดียวเท่านั้น แต่การกลับมาในครั้งนี้เป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการสร้างสถิติใหม่ ขึ้นแท่นซีรีส์ที่มียอดวิวสูงถึง 1 พันล้านชั่วโมงเป็นเรื่องที่ 2 ต่อจาก Squid Game
และที่สำคัญในซีซั่นนี้ยังได้ส่งไม้ต่อความปังไปสู่เพลงซีรีส์ โดยเพลงที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้น Running Up That Hill ของ Kate Bush ที่ถูกกลับมารีไพรส์อีกครั้ง แบบโคตรจะเข้ากับเรื่องแบบสุดๆ
แม้ซีซั่น 4 จะจบลงไปแล้วทั้ง 2 พาร์ท แต่ Stranger Things ยังคงเป็นซีรีส์ที่ถูกพูดถึงต่อในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง จนเราปฏิเสธไม่ได้ว่า Stranger Things นี่แหละ เป็นออริจินัล ซีรีส์ของ Netflix ที่ประสบความสำเร็จที่สุดเรื่องหนึ่งที่มีมาเลยก็ว่าได้
อย่างไรก็ตาม ปมของซีซั่นนี้นับว่าเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของจุดจบเท่านั้น เราคงได้รู้เรื่องราวและบทสรุปทั้งหมดของมหากาพย์ซีรีส์เรื่องนี้ ว่าสุดท้ายแล้ว The Duffer Brothers จะเขียนเรื่องราวให้จบลงอย่างไรในซีซั่น 5 ที่จะกลายเป็นซีซั่นสุดท้ายของ Stranger Things นั่นเองครับ
Tag : Stranger Things 4 | Netflix |
ช่างเป็นคอนโดที่เหมาะกับคนเห็นแก่กินอย่างพวกผมยิ่งนัก 555 จะหันซ้ายหันขวา ก็คราคร่ำไปด้วยร้านของกินเด็ดๆ เรียงกันเป็นแถว
เคยมีคนถามผมว่า "สมัยนี้ ยังสามารถสร้างคอนโดที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้าได้ไหม?" ได้สิ เพราะแม้ว่าความใกล้ รถไฟฟ้า จะเป็น 1 ในปัจจัยหลักที่สำคัญมาก แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ "ขาย" ได้อยู่อีก
จะมีคอนโดปล่อยเช่าอยู่อันนึง ที่แม้แต่ตอนโควิดก็ไม่มีผลอะไร มีคนเช่าตลอดๆ แทบไม่มีช่วงว่าง บางครั้งคือ คนเก่าย้ายออกตอนเช้า ตอนเย็นคนใหม่ใส่หน้ากากอนามัยขนของเข้าอยู่ต่อเลย
'PYNN Pridi 20' (พินน์ ปรีดี 20) คอนโดใหม่แถวซอยปรีดีฯ 20 จากภาพที่เห็นตอนเปิดตัว ก็พอทราบแล้วว่าแบรนด์ 'PYNN' เป็นแบรนด์ที่แสนสิริเค้าน่าจะปั้นให้มีจุดเด่นในแง่ของการเป็นคอนโดเล็กๆ ในซอยสงบๆ เน้นความเป็นส่วนตัวสูงและสามารถเลี้ยงสัตว์ได้
ตั้งแต่เปิดปีมาคอนโดภายใต้แบรนด์ 'MUNIQ' (มิวนีค) สามารถกวาดยอดขายช่วงพรีเซลไปได้แบบโกยได้โกยของแท้ เค้าเป็นแบรนด์ที่ทำให้ตอนนี้เมเจอร์ยอดขายรอรับรู้รายได้หรือ Backlog มากกว่า 4,400 ลบ. แล้วครับท่านผู้ชม!!
ช่วงเวลาประมาณนี้เมื่อปีที่แล้ว ผมจำได้ว่าเคยแวะไปดูทำเลโครงการใหม่ ในย่าน "เทียมร่วมมิตร" และผ่านแถวสถานทูตเกาหลี จำได้ว่าข้างกันยังมีที่ดินว่างซึ่งเป็นแปลงเก่าของ "สยามนิรมิตร" อยู่
ตอนนี้จ้าวแคมปัสคอนโดของตลาดอสังหาบ้านเรา ไม่ต้องให้ใบ้ก็ตอบได้ว่าคือ“แอสเซทไวส์” นี่แหละ
หมู่บ้านต้องมีไม่เกินกี่หลัง ถึงจะเรียก Private ถ้าแค่ 1 หลัง Private พอมั้ย? ‘แสนสิริ‘ เปิดตัวแบรนด์ใหม่ ‘ELSE’ เป็น EXCLUSIVE RESIDENCES ทำโครงการไม่เกิน 10 หลัง!
ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีอะไรให้เราว้าวอยู่ตลอดเวลาจริงๆ นะ อย่างล่าสุดเค้ากำลังทำการสร้าง สนามบิน Lishui (หลี่ซุย) แห่งใหม่ในมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งพี่จีนไม่ได้สร้างให้เป็นแค่สนามบินธรรมดา แต่นี่คือสนามบินที่สร้างในสวน เป็นรูปแบบของสนามบิน "Forest City" !!
หลังจาก "Emsphere" ห้างใหม่ในกลุ่ม "Em District" เปิดตัวไป ก็เพิ่มกระแสให้กับพื้นที่รอบด้านได้เพียบเลย ขนาดแค่เปิดตัววันแรกคนก็มหาศาล เรียกว่าสมราคาตระกูล Em สุดๆ
คิดจะพักคิดถึงคิทแคท แต่ถ้าคิดถึงโดนัทอร่อยๆ ก็ต้องคิดถึงคริสปี้ ครีม ดิค้าบบ ไปลองกันยัง “คริสปี้ ครีม x คิทแคท” (Krispy Kreme x KitKat) กับ 3 โดนัทหน้าพิเศษสุดฟิน!!
แต่ก่อนผมคิดนะว่า การจะซื้อบ้านทีก็ต้องไปดูถึงโครงการ ไปดูให้เห็นกับตาแล้วค่อยตัดสินใจ แต่ด้วยอากาศแบบนี้ บางทีก็แอบส่องผ่านทาง Social เอาก่อน น่าจะดีกว่านะ 5555