เป็นเวลาเกือบ 3 สัปดาห์แล้ว หลังจากที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
การเปิดฉากครั้งนี้เป็นที่จับตามองของคนทั่วทั้งโลก ไม่เพียงแต่ทวีปยุโรปเท่านั้น หลายฝ่ายต่างมองว่า การรุกรานของรัสเซียครั้งนี้ อาจจะลุกลามและส่งผลกระทบมากกว่าที่คิด
ซึ่งหลายประเทศทั่วโลก ต่างก็เรียกร้องให้รัสเซียยุติการโจมตีในครั้งนี้ รวมถึงการช่วยเหลือยูเครนต่อนานาประเทศ ที่เป็นสัญญาณว่า เสียงข้างมากของโลก ต่างสนับสนุนยูเครนมากกว่า หรือจะพูดให้ถูกต้องก็คือ เสียงของโลกกำลังตะโกนว่าพวกเขาไม่ต้องการสงครามที่เปิดฉากโดยรัสเซีย
จากสถานการณ์ตึงเครียดกว่าหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายคนอาจจะกำลังหาข้อมูลหรือสาเหตุแห่งความขัดแย้ง ที่นำมาสู่การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครนในครั้งนี้
เร็วๆ นี้ สารคดีเรื่อง Winter on Fire: Ukraine’s Fight for Freedom (2015) ที่กำกับโดย Evgeny Afineevsky ที่ฉายบน Netflix ได้ถูกนำมาพูดถึงอีกครั้ง สารคดีเรื่องนี้เป็นการรวบรวมฟุตเทจเหตุการณ์การต่อสู้ของชาวยูเครนจากหลายๆ อาชีพ หลายๆ ช่วงอายุ ทั้ง นักศึกษา แพทย์ พยาบาล ทนาย ทหารเกษียณ นักธุรกิจ นักแสดง นักร้อง รวมถึง ผู้นำทางศาสนา ตลอดระยะเวลากว่า 93 วัน ในฤดูหนาวช่วงปี 2013-2014
ในช่วงที่เกิดการประท้วง "วิกเตอร์ ยานูโควิช" ผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดียูเครนในขณะนั้น ไม่เซ็นลงนามให้ประเทศยูเครนเข้าเป็นสมาชิกกับสหภาพยุโรป ถือเป็นการหักหลังประชาชน เนื่องจากในขณะที่ ยานูโควิช เขาได้ให้สัญญากับประชาชนว่าหากชนะเลือกตั้ง จะพายูเครนเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป
เนื่องจาก "วิกเตอร์ ยานูโควิช" เป็นนักการเมืองที่สนับสนุนรัสเซีย (ลืมบอกว่ายูเครนเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตนะครับ) ซึ่งอย่างที่ทราบกันว่ารัสเซียเนี้ย ไม่ปลื้มแน่ๆ หากยูเครนจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป (ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้มีสิทธิอะไรนั่นแหละ)
เมื่อประชาชนไปทาง ผู้นำไปทาง จึงเกิดการประท้วงครั้งนี้ขึ้น ประชาชนชาวยูเครนที่ไม่พอใจต่อการกระทำครั้งนี้ของ ยานูโควิช ต่างเดินทางมารวมตัวกันในเมืองเคียฟ จัตุรัสไมดาน นั่นถือเป็นจุดเริ่มต้นการต่อสู้ของชาวยูเครน
"ผมมาที่นี่เพราะว่าหลายวันก่อนรัฐบาลเพิ่งทำลายอนาคตของยูเครนและความหวังของเยาวชนชาวยูเครน ผมมาที่นี่เพื่อปกป้องอนาคตของผม อนาคตของลูกๆ ผม เพื่อนร่วมชาติและประเทศชาติ" หนึ่งในผู้ประท้วงคนหนึ่งให้สัมภาษณ์
สารคดีไม่เพียงแต่เก็บภาพเหตุการณ์ต่างๆ สารคดียังมีบทสัมภาษณ์ของผู้คนที่ออกมาร่วมประท้วงในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ประชาชนหลายคนมองว่าการปฏิเสธข้อตกลงกับสหภาพยุโรป เป็นการนำพายูเครนกลับเข้าสู่ยุคสงครามเย็นอีกครั้ง บางคนมองว่า เหมือนเป็นการพาประเทศกลับไปเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต
กล่าวได้ว่าการชุมนุมครั้งนี้ของประชาชนยูเครนนั้นดำเนินไปอย่างสงบครับ ก็คล้ายๆ กับการชุมนุมหลายๆ ประเทศ คือมีการขึ้นเวทีปราศรัย มีการเล่นดนตรี การแบ่งอาหาร “ยูเครนเป็นส่วนหนึ่งของยุโรป” เสียงตะโกนก้องของผู้ชุมนุมราวพันคนที่จตุรัสไมดาน ด้วยความหวังให้รัฐบาลเปลี่ยนใจ
จนกระทั่งคืนวันที่ 9 ของการชุมนุม เหล่าตำรวจหรือที่เรียกในเหตุการณ์ว่า "กองกำลังตำรวจพิเศษเบอร์คุต" ได้ทำการสลาย โดยมีอาวุธเป็นกระบองเหล็ก ไล่ทุบตีผู้ชุมนุม นอกจากนี้ยังมีการทำร้ายร่างกายอื่นๆ อีกด้วย
การสลายการชุมนุมครั้งนี้กลับจุดชนวนความโกรธแค้นให้ทวีคูณแก่ประชาชนชาวยูเครนมากขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้วันต่อมามีผู้ชุมนุมเดินทางเข้ามาสมทบมากขึ้น และเริ่มมีการเดินประท้วง ตามท้องถนน จนเกิดการสลายการชุมนุมเริ่มรุนแรงมากขึ้น ไม่เพียงแต่กระบองเหล็ก แต่ฝั่งตำรวจเริ่มใช้แก๊สน้ำตา ปืนกล AK-47 และปืนไรเฟิลยิงใส่ผู้ชุมนุมอีกด้วย ในขณะที่การตอบโต้ของทางฝั่งผู้ชุมนุมมีเพียงประทัด ก้อนอิฐหรือก้อนหิน และการเผารถเพื่อบดบังวิสัยทัศน์ของตำรวจเท่านั้น
ภายหลัง ยานูโควิช ยอมลงจากตำแหน่งและหลบหนีไปยังรัสเซีย จากนั้นยูเครนจึงได้เลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ และมีการเซ็นข้อตกลงกับสหภาพยุโรปในเวลาถัดมา
ตลอดการชุมนุมตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2013 ถึง เดือนกุมภาพันธ์ปี 2014 องค์กรสิทธิมนุษยชนรายงานว่ามีผู้ถูกฆ่า 125 คน ผู้สูญหาย 65 คน และผู้เข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บอีก 1,890 คน
การต่อสู้ของชาวยูเครนครั้งนี้มีระยะเวลารวม 93 วัน ซึ่งแม้การชุมนุมจะจบลงไปแล้ว ชาวยูเครนกลับต้องเผชิญหน้าและต้องต่อสู้อีกครั้ง โดยที่เรายังไม่รู้เลยว่าการต่อสู้ครั้งนี้ของชาวยูเครนนั้นจะจบลงเมื่อไหร่
ช่างเป็นคอนโดที่เหมาะกับคนเห็นแก่กินอย่างพวกผมยิ่งนัก 555 จะหันซ้ายหันขวา ก็คราคร่ำไปด้วยร้านของกินเด็ดๆ เรียงกันเป็นแถว
เคยมีคนถามผมว่า "สมัยนี้ ยังสามารถสร้างคอนโดที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้าได้ไหม?" ได้สิ เพราะแม้ว่าความใกล้ รถไฟฟ้า จะเป็น 1 ในปัจจัยหลักที่สำคัญมาก แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ "ขาย" ได้อยู่อีก
จะมีคอนโดปล่อยเช่าอยู่อันนึง ที่แม้แต่ตอนโควิดก็ไม่มีผลอะไร มีคนเช่าตลอดๆ แทบไม่มีช่วงว่าง บางครั้งคือ คนเก่าย้ายออกตอนเช้า ตอนเย็นคนใหม่ใส่หน้ากากอนามัยขนของเข้าอยู่ต่อเลย
'PYNN Pridi 20' (พินน์ ปรีดี 20) คอนโดใหม่แถวซอยปรีดีฯ 20 จากภาพที่เห็นตอนเปิดตัว ก็พอทราบแล้วว่าแบรนด์ 'PYNN' เป็นแบรนด์ที่แสนสิริเค้าน่าจะปั้นให้มีจุดเด่นในแง่ของการเป็นคอนโดเล็กๆ ในซอยสงบๆ เน้นความเป็นส่วนตัวสูงและสามารถเลี้ยงสัตว์ได้
ตั้งแต่เปิดปีมาคอนโดภายใต้แบรนด์ 'MUNIQ' (มิวนีค) สามารถกวาดยอดขายช่วงพรีเซลไปได้แบบโกยได้โกยของแท้ เค้าเป็นแบรนด์ที่ทำให้ตอนนี้เมเจอร์ยอดขายรอรับรู้รายได้หรือ Backlog มากกว่า 4,400 ลบ. แล้วครับท่านผู้ชม!!
ช่วงเวลาประมาณนี้เมื่อปีที่แล้ว ผมจำได้ว่าเคยแวะไปดูทำเลโครงการใหม่ ในย่าน "เทียมร่วมมิตร" และผ่านแถวสถานทูตเกาหลี จำได้ว่าข้างกันยังมีที่ดินว่างซึ่งเป็นแปลงเก่าของ "สยามนิรมิตร" อยู่
ตอนนี้จ้าวแคมปัสคอนโดของตลาดอสังหาบ้านเรา ไม่ต้องให้ใบ้ก็ตอบได้ว่าคือ“แอสเซทไวส์” นี่แหละ
หมู่บ้านต้องมีไม่เกินกี่หลัง ถึงจะเรียก Private ถ้าแค่ 1 หลัง Private พอมั้ย? ‘แสนสิริ‘ เปิดตัวแบรนด์ใหม่ ‘ELSE’ เป็น EXCLUSIVE RESIDENCES ทำโครงการไม่เกิน 10 หลัง!
ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีอะไรให้เราว้าวอยู่ตลอดเวลาจริงๆ นะ อย่างล่าสุดเค้ากำลังทำการสร้าง สนามบิน Lishui (หลี่ซุย) แห่งใหม่ในมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งพี่จีนไม่ได้สร้างให้เป็นแค่สนามบินธรรมดา แต่นี่คือสนามบินที่สร้างในสวน เป็นรูปแบบของสนามบิน "Forest City" !!
หลังจาก "Emsphere" ห้างใหม่ในกลุ่ม "Em District" เปิดตัวไป ก็เพิ่มกระแสให้กับพื้นที่รอบด้านได้เพียบเลย ขนาดแค่เปิดตัววันแรกคนก็มหาศาล เรียกว่าสมราคาตระกูล Em สุดๆ
คิดจะพักคิดถึงคิทแคท แต่ถ้าคิดถึงโดนัทอร่อยๆ ก็ต้องคิดถึงคริสปี้ ครีม ดิค้าบบ ไปลองกันยัง “คริสปี้ ครีม x คิทแคท” (Krispy Kreme x KitKat) กับ 3 โดนัทหน้าพิเศษสุดฟิน!!
แต่ก่อนผมคิดนะว่า การจะซื้อบ้านทีก็ต้องไปดูถึงโครงการ ไปดูให้เห็นกับตาแล้วค่อยตัดสินใจ แต่ด้วยอากาศแบบนี้ บางทีก็แอบส่องผ่านทาง Social เอาก่อน น่าจะดีกว่านะ 5555