ลมหนาวโชยมากแล้ว~~~ ได้เวลาที่สายเที่ยวอย่างพวกเราจะออกล่ากลิ่นอายธรรมชาติเข้าสู่ปอดกันซะที หลังจากที่อยู่บ้านกันมาเนิ่นนาน 55555

        วันนี้เราจะมาแนะนำที่เที่ยว "เขาใหญ่" กันครับ ใช้เวลาเดินทางแค่ 3 ชั่วโมงนิด ๆ ก็มีผืนป่าอันกว้างใหญ่ไว้รอกอดทุกคนให้หายคิดถึงแล้ว

        นี่เลย 'Rock For Rest' รีสอร์ตที่ไม่ได้มีดีแค่ผืนป่า แต่รายล้อมไปด้วยหินผามากมาย ก่อนไปผมเองยังคิดไม่ถึงเลยว่า 'หิน' มันจะสวยได้ถึงขนาดนี้!!!

        อันที่จริงจะเรียกรีสอร์ตก็ดูจะพลุกพล่านเกินไปหน่อยนะ จริง ๆ เค้ามันออกแนว 'บ้านพักตากอากาศ' ซะมากกว่า เพราะมีความเป็นส่วนตัวสูงมาก 

        อย่างหลังใหญ่ที่ผมไปพักเนี่ยนอนได้ 8 คน มีสระว่ายน้ำส่วนตัวแบบพูลวิลล่าให้ด้วย รวมแก๊งค์เพื่อนกรุ๊ปเล็ก ๆ ไปโดดน้ำ ชมวิว ปาร์ตี้ริมสระกันได้ชิล ๆ

        ส่วนใครที่เป็นสาย Camping ที่นี่เค้ามีเตา bbq ให้ปิ้งย่างได้ตามใจด้วยนะ มีตู้เย็นให้เก็บของสด มีถ่านให้ซื้อ อุปกรณ์ จาน ชาม ช้อน ส้อม มีด มีให้ใช้ครบครัน

 

 

        ซึ่งสาเหตุหลักที่ผมเลือกมาพักที่นี่ ก็เพราะเค้าก่อสร้างโดย MEDULAR โปรเจคบ้านโมดูลาร์สุดยิ่งใหญ่แห่งปีของคอนโดติดดอยนี่แหละ

        ตอนที่ได้รับโปรเจคมาตอนแรก ทีมของเราก็คิดกันอย่างหนักหน่วงนะ ว่าจะออกแบบก่อสร้างเป็นรีสอร์ตขึ้นมาใหม่เลยมั้ย

        เพราะบริษัทพี่ชายผมก็มีบริการออกแบบและรับเหมาก่อสร้างอยู่แล้ว แต่เมื่อคิด วิเคราะห์ แยกแยะกันอย่างถี่ถ้วนแล้ว การก่อสร้างด้วยอาคารสำเร็จรูปน่าจะเหมาะกว่า

        "อ่าว... ทำไมล่ะ" เพื่อน ๆ ที่กำลังอ่านเริ่มสงสัยกันแล้วใช่มั้ยครับ เดี๋ยวผมเล่าให้ฟัง ตามมาเล๊ยยยย

 

 

แค่สวยคงไม่พอ ต้องไวและคงทน

 

        อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นครับ 'Rock For Rest' ทำเลเค้าดีมาก บรรยากาศและกลิ่นอายธรรมชาติเค้ามีพร้อมหมดละ แต่นั้นแหละคือ 'โจทย์หิน' สมชื่อที่แห่งนี้เลย ฮ่า ๆๆๆ

        เพราะเมื่อทำเลดี บรรยากาศได้ เราก็อยากจะรักษามันไว้ใช่มั้ยครับ แต่การก่อสร้างทั่วไปล้วนก่อให้เกิดมลพิษระหว่างก่อสร้างอยู่แล้ว ยิ่งใช้ระยะเวลาก่อสร้างนานก็จะยิ่งรบกวนสิ่งแวดล้อมด้วย

        เมื่อคิดกันอย่างถี่ถ้วนแล้ว 'อาคารสำเร็จรูป' จึงเป็นคำตอบที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยลดปัญหาฝุ่นควันแล้ว ระยะเวลาการก่อสร้างก็ไวมาก 

        ทั้งนี้ก็เพราะชิ้นส่วนอาคารส่วนใหญ่ผลิตจากโรงงาน ถึงหน้างานก็แค่ติดตั้งและประกอบเข้าด้วยกัน อย่างโปรเจคนี้เราใช้เวลาก่อสร้างหน้างานทั้งโครงการไม่ถึง 2 เดือน!!!

        ใช่ครับอ่านไม่ผิด "2 เดือน" เป็นระยะเวลาที่เราติดตั้งและก่อสร้างหน้างานทั้งหมด แต่นี่ก็ไม่รวมระยะเวลาที่เราออกแบบและผลิตที่โรงงานอีก 3-4 เดือนนะ

 

 

        เมื่อเทียบกันแล้วจะเห็นได้ชัดเลยครับ การก่อสร้างด้วยอาคารสำเร็จรูปที่ใช้โครงสร้างเหล็กนั้น ช่วยลดระยะเวลาก่อสร้างได้จริง ๆ เพราะถ้าเป็นโครงสร้างคอนกรีตอาจจะกินระยะเวลามากกว่านี้

        ผมขอยกตัวอย่างตั้งแต่การก่อสร้างเริ่มต้นอย่าง 'ฐานราก' เลยละกัน จากสภาพภูมิประเทศของ 'Rock For Rest' ที่ตั้งอยู่บริเวณตีนเขา มีชั้นดินที่แข็งและมีหินใต้พื้นดินพอสมควร 

        ถ้าเป็นโครงสร้างคอนกรีตที่ต้องอาศัยการลงเสาเข็ม ก็จะลำบากและใช้เวลาค่อนข้างมาก เพราะต้องมีการขุดชั้นดินและทำการตอกเสาเข็มลงไปใต้ดินด้วย

        กลับกัน... การใช้อาคารสำเร็จรูปที่ใช้โครงสร้างเหล็กไม่จำเป็นต้องเจาะชั้นดินลงไปลึกมากขนาดนั้น เพราะใช้การสกัดชั้นหินเพื่อทำฐานราก สะดวก รวดเร็ว แต่ให้ความคงทนไม่แพ้กันเลย

        เริ่มมองเห็นภาพกันแล้วใช่มั้ยครับ ซึ่งนี่แค่ส่วนฐานรากซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของอาคารเท่านั้นนะ ความพิเศษของ  'Rock For Rest' จริง ๆ คือตัวอาคารมากกว่า...

 

 

ความลับของความไว ที่โครงสร้างไหนเกินต้าน

 

        ย้อนไปตอนที่เรากำลังวางแผนออกแบบ มันมีเสียงในใจแย้งอยู่นิด ๆ ว่า 'อาคารสำเร็จรูปที่ใช้เหล็กเป็นโครงสร้าง มันจะให้ฟีลอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านได้หรอ?'

        เอาจริงมันก็ยากแหละ เพราะถ้าจะทำ 'บ้าน' ในใจทุกคนก็อยากก่ออิฐฉาบปูนให้มั่นคง แข็งแรง อยู่แล้วรู้สึกปลอดภัยเป็นธรรมดา แต่ก็ต้องแลกด้วยหลายปัจจัย

        อย่างแรกคือ สร้างแล้วสร้างเลย ในอนาคตจะย้าย จะเปลี่ยนแผน เปลี่ยนสถานที่ตั้งไม่ได้ หากทุบทำลายก็จะเป็นขยะที่ทิ้งเหลือไว้ให้กับธรรมชาติ

        อย่างที่สองคือ ระหว่างก่อสร้างใช้เวลานาน ขนย้ายวัสดุก็ลำบาก เพราะสถานที่ก่อสร้างอยู่ตีนเขา มีธรรมชาติรายล้อม แถมถนนไปไซต์ก็ค่อนข้างเล็กด้วย

        เมื่อชั่งใจและปรึกษากันอย่างถี่ถ้วนแล้ว พวกเราจึงลงความเห็นกันว่าสำหรับโปรเจคนี้การใช้ 'อาคารสำเร็จรูปที่ใช้โครงสร้างเหล็ก' เนี่ยแหละดีแล้ว 555

        ทั้งนี้ก็เพราะเราต้องการใช้คุณสมบัติเด่นของ "โครงสร้างเหล็ก" ที่ช่วยให้ชิ้นส่วนอาคารสำเร็จรูปของเรานั้นผลิตได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเคลื่อนย้ายไปติดตั้งหน้างานได้

        ซึ่งเมื่อผมได้กลับมาพักเอง ผมก็แฮปปี้ดีนะ ไม่ได้รู้สึกแตกต่างจากบ้านก่ออิฐฉาบปูนเลย ถ้าสร้างบ้านใหม่แล้วใช้โครงสร้างเหล็กแบบนี้ก็ไม่มีเสียงแย้งในใจละ 5555

        แต่!!! ผมเชื่อว่าคงมีเพื่อน ๆ หลายคนที่เกิดเสียงแย้งในใจแทนว่า "แล้วโครงสร้างแบบอื่นเคลื่อนย้ายไม่ได้หรอ? ทำไมต้องโครงสร้างเหล็กล่ะ?"

        เอาจริง ๆ ทุกโครงสร้างก็สามารถขนย้ายได้หมดและครับ อย่างโครงการคอนโดสมัยนี้ก็จะเห็นการใช้ผนังสำเร็จรูปยกกันเป็นแผ่น ๆ ขึ้นไปบนอาคารสูง ๆ ออกจะบ่อย

        แต่ความพิเศษที่โครงสร้างเหล็กนั้นเหนือกว่าก็คือมีน้ำหนักเบา และเกิดความเสียหายระหว่างขนส่งได้น้อยกว่า เพราะเราเชื่อมประกอบเป็นห้องไปตั้งแต่โรงงานแล้ว

 

 

        เพื่อน ๆ ลองนึกถึง 'ตัวต่อเลโก้' ที่เราเล่นกันตอนเด็ก ๆ ก็ได้ครับ อาคารสำเร็จรูปแบบ Modular นั้นจะทำการแบ่งแยกพื้นที่ใช้สอยออกมาเป็นหน่วยเล็ก ๆ เป็นห้องต่าง ๆ ตามขนาดที่เหมาะสม

        แล้วทำการทำห้องนั้นทั้งห้องเป็นกล่องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ยกไปติดตั้งหน้างานทั้งห้องเลย ถึงหน้างานก็เอาตัวต่อห้องเหล่านี้มาเชื่อมประกอบเข้าด้วยกัน

        ซึ่งถ้าเป็นโครงสร้างคอนกรีตเราจะไม่สามารถยกไปทั้งห้องแบบนี้ได้ เนื่องจากมีน้ำหนักที่เยอะมากขนย้ายลำบาก โครงสร้างเหล็กนี่เองจึงเป็นความลับของการก่อสร้างรูปแบบนี้

        การใช้ "โครงสร้างเหล็ก" สำหรับการทำบ้านโมดูล่านั้นจะเป็นการขึ้นโครงสร้างของห้องด้วย "เหล็ก" และใช้วัสดุปิดผิวมาประกอบเป็นพื้น เป็นผนัง และเป็นฝ้าเพดานอีกที

        พูดง่าย ๆ ก็คือการใช้เหล็กตีกรอบของห้องขึ้นมา โดยการเลือกใช้เหล็กในแต่ละส่วนนั้น เราต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป

 

 

        เช่นการทำ 'เสาและคาน' ที่ต้องรับน้ำหนักมาก ควรเลือกใช้เหล็กชนิด "เหล็กเอชบีม (H-Beam)" ที่มีคุณสมบัติรับน้ำหนักเป็นพิเศษ

        ซึ่งถ้าใครไปเลือกซื้อเองก็ต้องสังเกตดี ๆ หน่อยนะครับ เหล็กชนิดนี้จะมีหน้าตาคล้ายคลึงกับเหล็ก I-Beam มาก แต่การใช้งานนั้นไม่เหมาะที่จะนำมาใช้แทนกันเลย

        โดยจะต่างกันตรงที่ปีกทั้ง 2 ฝั่งของ H-Beam จะมีความหนาที่สม่ำเสมอ ส่วนปีกของ I-Beam จะมีความลาดเอียงเข้าสู่บริเวณเอวของหน้าตัด เพราะใช้รับแรงกระแทกนั่นเอง

 

 

        ผมสารภาพนะ... การเลือกใช้เหล็กนี่ผมก็ยังด้อยประสบการณ์นัก แต่ดีที่มี SYS คอยให้คำปรึกษาและแนะนำผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้มาโดยตลอด ต้องขอขอบคุณมา ณ. โอกาสนี้ด้วยนะคร้าบบบ :)

 

 

เหล็กไม่ใช่เรื่องไกล ถ้าไว้ใจให้ถูกคน

 

        ผมเชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงเริ่มสงสัยว่าจากแนะนำที่พัก ไหงโยงมาถึงเครื่อง "โครงสร้างเหล็ก" ได้กันนะ อันที่จริงผมก็งงตัวเองอยู่เหมือนกัน 5555

        แต่เนื้อหาใจความหลักจริง ๆ ที่อยากจะเล่าก็คือที่พักที่เราเห็นสวย ๆ (ไม่ใช่แค่ 'Rock For Rest' นะ) เค้าก็ต่างมีเรื่องราวที่น่าประทับใจซ่อนไว้ทั้งนั้น

        ซึ่งส่วนตัวผมเองแล้วความประทับใจของการได้ไปพักนั้นมันมาหลังสุด ความประทับใจแรกมันเริ่มตั้งแต่การไปสำรวจที่ดิน และเริ่มหาแนวทางในการออกแบบละ

        การจะออกแบบบ้าน ออกแบบอาคารให้ออกมาสวยนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่การที่รักษาเอกลักษณ์ บรรยากาศ และธรรมชาติของที่แห่งนั้นไว้สิยากกว่า

 

 

        ซึ่งการมีทีมที่ดี เลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตที่ไว้ใจก็สำคัญ ทำให้นึกถึงพันธมิตรที่ดีของเราอย่าง SYS ที่คอยให้คำแนะนำและช่วยเลือกผลิตภัณฑ์ให้ตลอด

        ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของเรามากๆ  ก็คงเป็นเพราะด้วยความที่ SYS เค้ามีโรงงานเป็นของตัวเอง ผลิตในประเทศไทย อยู่คู่คนไทยมามากกว่า 25 ปีแล้วนี่

        ไม่แน่อาคารที่เพื่อนๆอยู่ตอนนี้ อาจจะใช้เหล็กของเค้าด้วยก็เป็นได้ ฮ่าๆๆๆ

 

 

        เอาเป็นว่าบทความนี้ถือเป็นการแนะนำที่พักสำหรับใครที่กำลังหาที่เที่ยว และแนะนำการใช้โครงสร้างเหล็กสำหรับใครที่มีแพลนจะสร้างบ้าน สร้างอาคารละกัน

        เป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นว่าจริง ๆ แล้ว "เหล็ก" ก็สามารถใช้เป็นโครงสร้างหลักที่โชว์ได้ ไม่จำเป็นต้องห่อหุ้มด้วยเปลือกเหมือนตอนใช้งานกับโครงสร้างอื่น ๆ 

        ถ้าเพื่อน ๆ อยากไปดูให้เห็นกับตาว่าบ้านพักตากอากาศพร้อมสระส่วนตัวที่ก่อสร้างหน้างานไม่ถึง 2 เดือนนั้นเจ๋งแค่ไหน เชิญไปลองเยี่ยมชมที่ 'Rock For Rest' กันก่อนได้นะ ลมหนาวมาแล้วนะ อย่ารอช้า

        เช่นเคย... ถ้าเพื่อน ๆ มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเหล็ก H-Beam ว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร เหมาะกับงานแบบไหน SYS (Siam Yamato Steel) เค้าก็พร้อมให้คำแนะนำนะ ลองไปหาคำตอบกันดูที่ คลิก และเฟซบุ๊ก คลิก เล๊ยยยย

        

• Website SYS : https://bit.ly/3mi2JpY
• FB SYS : https://bit.ly/3nDCREm