สมัยนี้หากใครคิดจะสร้างบ้าน ก็มีแบบบ้านมากมายมาให้เลือกสรรค์เยอะแยะมากมายเต็มไปหมด
ในยุคหลังๆ มานี้แบบบ้านที่ได้รับความนิยม ก็คงหนีไม่พ้นแบบบ้านสไตล์โมเดิร์น ตามแบบฉบับตะวันตกผสมมานิดๆ หน่อยๆ
รวมถึงโครงการบ้าน ที่แต่ละดิเวลลอปเปอร์เน้นสร้าง ส่วนมากก็หันมาชูสไตล์นี้กันเยอะ ดังนั้นหลายๆโครงการในช่วงหลังๆ มานี้ จึงมักจะเป็นบ้าน ที่มีรูปทรงและสไตล์เหมือนๆ กันมากมายหลายโครงการเลยทีเดียว
แต่ยังมีแบบบ้านอีกแบบ ที่หลายๆ คนอาจจะไม่ค่อยนึกถึงบ้างแล้วในสมัยนี้ หรือหลายคนอาจจะลืมมันไปแล้วด้วยซ้ำ นั่นก็คือ "บ้านทรงไทย" นั่นเองครับ
บ้านทรงไทยนั้นมีหลากหลายประเภท เพราะแต่ละภูมิภาคของประเทศก็มีการดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตนที่แตกต่างกันไปตามถิ่นที่อยู่อาศัย
แต่วันนี้ผมขอพูดถึงบ้านทรงไทยในมายาคติรวมๆ นั่นก็คือ "บ้านยกใต้ถุนสูง หลังคาทรงจั่ว" นั่นเอง
หากถามถึงคนที่อยากมีบ้านในยุค 5G ว่าถ้าอยากสร้างบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง คุณอยากสร้างบ้านแบบไหน สไตล์อะไร?
ผมเชื่อว่า เราคงไม่ค่อยได้รับคำตอบว่าอยากได้บ้านทรงไทยมากนัก เนื่องจากสมัยนี้ "เทรนด์อื่น" มันมาแรงกว่ามากจริงๆ อย่างที่ผมเกริ่นไปนั่นแหละ
แต่แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไป ความนิยมจะน้อยลง แต่ผมขอพูดถึงข้อดีของบ้านทรงไทยกันบ้างดีกว่า ดีไม่ดี คนอยากมีบ้าน อาจจะเปลี่ยนใจ กลับมาอยากได้บ้านทรงไทยก็ได้นะ!!
1. ใต้ถุนสูงก็ Double Volume ดีๆ นี่แหละ
เป็นอันทราบกันดีอยู่แล้วครับว่าการออกแบบโถงบ้านให้มาในรูปแบบ Double Volume เป็นการทำให้บ้านมีอากาศถ่ายเทมากขึ้น ซึ่งโครงการบ้านในยุคหลังมานี้เราก็มักจะเห็นหลายโครงการทำโถงบ้านแบบ Double Volume กันเยอะเลยครับ อันนี้รวมถึงคอนโดด้วยนะ ยิ่งคอนโดสไตล์ลอฟท์เนี้ย เพดานยิ่งสูง ก็ยิ่งดี
พออากาศถ่ายเทบ้านและห้องที่อยู่ก็ไม่ร้อน บ้านทรงไทยที่ออกแบบมาให้มีใต้ถุนที่สูงก็เช่นกัน ต้องบอกก่อนครับว่า ใต้ถุนบ้านของคนไทยเนี้ย จะเรียกว่าเป็นพื้นที่ภายนอกก็ไม่ใช่ เอ๊ะ!! หรือภายในก็ไม่เชิง มันอยู่ กึ่งๆ กลางๆ ระหว่างภายในและภายนอกของตัวบ้าน ซึ่งการยกใต้ถุนสูง จะเข้ามาช่วยให้เกิดร่มเงา และเกิดลมพัดผ่าน ดังนั้นเมืองไทยเมืองร้อนอย่างนี้ การยกใต้ถุนบ้านให้สูงนั้นจึงตอบโจทย์กับอากาศบ้านเรามากนั่นเอง
2. น้ำท่วมทุกปี แต่บ้านทรงไทยช่วยคุณได้
จากข้อแรก ผมพูดถึงเรื่องความลอฟท์ที่มาก่อนกาลของใต้ถุนบ้านทรงไทยแล้ว ข้อนี้ยังคงอยู่ที่ใต้ถุนบ้านครับ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีภูมิอากาศแบบร้อนชื้น มีฝนตกและแดดแรง ในช่วงฤดูฝนบางพื้นที่ต้องเผชิญฝนตกหนักส่งผลให้น้ำท่วมแทบจะทุกปี
ดังนั้น อีกหนึ่งข้อดีที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ บ้านทรงไทย สามารถป้องกันอุทกภัยได้ด้วยนะครับ เพราะส่วนมาก ใต้ถุนบ้าน มักจะเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ ไม่ได้เป็นพื้นที่พักอาศัยจริงจัง เพราะฉะนั้นเวลาน้ำท่วมบริเวณพื้นที่อยู่อาศัยหลักจึงปลอดภัยนั่นเอง เพราะน้ำจะท่วมบริเวณแค่ใต้ถุนบ้านเท่านั้น ดังนั้นจึงมั่นใจได้เลยครับว่าน้ำมาที ความเสียหายน้อยกว่าบ้านประเภทอื่นๆ อย่างแน่นอน
3. หลังคาทรงจั่วสามารถระบายความร้อนได้ดี
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของบ้านทรงไทย ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องหลังคานั่นเอง ซึ่งส่วนมากบ้านสไตล์นี้ก็มักจะมาในรูปแบบของหลังคาทรงจั่ว หลังคาทรงจั่วของไทยเป็นทรงหลังคาที่ยกขึ้นสูงกว่าบ้านอื่นๆ ในสมัยนี้ ซึ่งการทำหลังคาแบบนี้จะสอดคล้องไปพร้อมกับเพดานบ้านนั่นเองครับ
การจะทำหลังคาทรงจั่วแบบไทย จะมีพื้นที่โปร่งจรดเพดานอย่างน้อยก็ประมาณ 35 เมตรขึ้นไป ซึ่งข้อดีคือมันสามารถเก็บมวลอากาศไว้ในบ้านได้ ทำให้มีการหมุนเวียนอากาศถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งทรงจั่วแบบนี้ยังเป็นเหมือนฉนวนกันความร้อนได้ด้วยนะ
และด้วยระยะห่างขนาดนี้จึงทำให้ความร้อนไม่ค่อยส่งมาถึงบริเวณพื้นบ้านที่อยู่อาศัย ยิ่งใครทำหลังคาแบบสะท้อนความร้อนหรือตั้งฉนวนกันความร้อนแล้วด้วยนะ รับประกันค่าไฟถูกลงอย่างแน่นอนเลยฮะ
4. บ้านไม้คลายความร้อนได้ดีกว่า
บ้านทรงไทยส่วนมากแล้วก็จะนิยมสร้างด้วยไม้ใช่ไหมครับ แล้วทราบกันไหมครับว่าบ้านไม้นั้น สามารถคลายความร้อนได้ดีกว่าบ้านที่สร้างด้วยอิฐ ปูน หรือคอนกรีต ซึ่งวัสดุพวกนี้ล้วนแต่เป็นวัสดุที่อมความร้อนสูงกว่าบ้านไม้มาก
ดังนั้นช่วงฤดูร้อน จึงค่อนข้างมั่นใจได้เลยว่าบ้านที่ทำมาจากไม้ จะไม่ร้อนเท่าบ้านที่ทำจากวัสดุอื่น ถึงร้อนก็อาจจะมีการคลายความร้อนเร็วกว่าแบบอื่น ซึ่งข้อนี้นับว่าเป็นข้อดีหลักๆ ของบ้านทรงไทยเลยล่ะ
แต่ในช่วงหลังๆ มานี้ หลายๆ บ้านนิยมนำบ้านทรงไทยมาประยุกต์ ซึ่งบางบ้านก็ไม่ได้สร้างด้วยไม้ เรื่องการคลายความร้อนจึงอาจจะไม่เป็นผล ซึ่งหากใครที่อยากทำบ้านทรงไทย แต่อยากใช้วัสดุอื่นก็ไม่ต้องกังวลครับเพราะหากทำทรงใต้ถุนหรือหลังคาจั่วตัวบ้านก็จะยังคงมีอากาศถ่ายเทสูงอยู่นะ แต่อาจจะไม่ได้เย็นจับใจเท่าบ้านที่ทำจากไม้เท่านั้นเอง
5. ป้องกันอันตรายจากสัตว์ร้ายได้
ประเทศเราเป็นประเทศที่มีสัตว์ร้ายเยอะเหมือนกันนะ เนื่องจากมีภูมิอากาศแบบร้อนชื้น สัตว์ร้ายในภูมิอากาศแบบนี้ที่น่ากังวลก็คือพวกงูเงี้ยวเขี้ยวขอนั่นแหละ ยิ่งช่วงหน้าฝน ยิ่งต้องระวังครับ หลายบ้านอาจจะเคยประสบปัญหาอสรพิษเข้าบ้านกันมาบ้างแล้ว แต่ผมขอบอกไว้เลยรับว่า บ้านทรงไทยค่อนข้างเซฟเรื่องสัตว์ร้ายเข้าบ้านมากพอสมควรเลย
อันนี้ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับใต้ถุนบ้านอีกนั่นแหละ เนื่องจากใต้ถุนบ้านสูงแล้ว หากเราปิดหน้าต่างและประตูบ้านอย่างมิดชิด เรื่องสัตว์ร้ายจึงไม่ค่อยน่ากังวลนักสำหรับบ้านที่มีใต้ถุนสูง เพราะมันไม่มีช่องทางที่จะเข้าไปได้นั่นเองครับ
เป็นอย่างไรบ้างสำหรับ 5 ข้อดีที่ผมนำมาพูดถึงกันในวันนี้ แม้บ้านทรงไทย จะไม่ได้รับความนิยมเท่าบ้านแบบอื่น แต่ถ้าถามว่าบ้านแบบไหนที่เหมาะกับประเทศไทยที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นบ้านสไตล์ไทยๆ อย่างนี้นี่แหละ
ใครที่อยากมีบ้าน แต่ยังไม่รู้ว่าจะสร้างในรูปแบบและลักษณะไหนดีลองนำบ้านทรงไทยไปพิจารณากันได้นะครับ หรือใครที่ไม่ชอบดีไซน์ก็ลองนำบางส่วนของบ้านทรงไทยไปประยุกต์ได้นะ เดี๋ยวนี้ผมเห็นหลายคนก็นิยมเอาบ้านทรงไทยไปประยุกต์ให้ดูทันสมัยมากขึ้น ก็ออกมาดูเก๋ไม่เบาเลยนะฮะ
Tag : บ้านทรงไทย |
ช่างเป็นคอนโดที่เหมาะกับคนเห็นแก่กินอย่างพวกผมยิ่งนัก 555 จะหันซ้ายหันขวา ก็คราคร่ำไปด้วยร้านของกินเด็ดๆ เรียงกันเป็นแถว
เคยมีคนถามผมว่า "สมัยนี้ ยังสามารถสร้างคอนโดที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้าได้ไหม?" ได้สิ เพราะแม้ว่าความใกล้ รถไฟฟ้า จะเป็น 1 ในปัจจัยหลักที่สำคัญมาก แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ "ขาย" ได้อยู่อีก
จะมีคอนโดปล่อยเช่าอยู่อันนึง ที่แม้แต่ตอนโควิดก็ไม่มีผลอะไร มีคนเช่าตลอดๆ แทบไม่มีช่วงว่าง บางครั้งคือ คนเก่าย้ายออกตอนเช้า ตอนเย็นคนใหม่ใส่หน้ากากอนามัยขนของเข้าอยู่ต่อเลย
'PYNN Pridi 20' (พินน์ ปรีดี 20) คอนโดใหม่แถวซอยปรีดีฯ 20 จากภาพที่เห็นตอนเปิดตัว ก็พอทราบแล้วว่าแบรนด์ 'PYNN' เป็นแบรนด์ที่แสนสิริเค้าน่าจะปั้นให้มีจุดเด่นในแง่ของการเป็นคอนโดเล็กๆ ในซอยสงบๆ เน้นความเป็นส่วนตัวสูงและสามารถเลี้ยงสัตว์ได้
ตั้งแต่เปิดปีมาคอนโดภายใต้แบรนด์ 'MUNIQ' (มิวนีค) สามารถกวาดยอดขายช่วงพรีเซลไปได้แบบโกยได้โกยของแท้ เค้าเป็นแบรนด์ที่ทำให้ตอนนี้เมเจอร์ยอดขายรอรับรู้รายได้หรือ Backlog มากกว่า 4,400 ลบ. แล้วครับท่านผู้ชม!!
ช่วงเวลาประมาณนี้เมื่อปีที่แล้ว ผมจำได้ว่าเคยแวะไปดูทำเลโครงการใหม่ ในย่าน "เทียมร่วมมิตร" และผ่านแถวสถานทูตเกาหลี จำได้ว่าข้างกันยังมีที่ดินว่างซึ่งเป็นแปลงเก่าของ "สยามนิรมิตร" อยู่
หมู่บ้านต้องมีไม่เกินกี่หลัง ถึงจะเรียก Private ถ้าแค่ 1 หลัง Private พอมั้ย? ‘แสนสิริ‘ เปิดตัวแบรนด์ใหม่ ‘ELSE’ เป็น EXCLUSIVE RESIDENCES ทำโครงการไม่เกิน 10 หลัง!
ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีอะไรให้เราว้าวอยู่ตลอดเวลาจริงๆ นะ อย่างล่าสุดเค้ากำลังทำการสร้าง สนามบิน Lishui (หลี่ซุย) แห่งใหม่ในมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งพี่จีนไม่ได้สร้างให้เป็นแค่สนามบินธรรมดา แต่นี่คือสนามบินที่สร้างในสวน เป็นรูปแบบของสนามบิน "Forest City" !!
หลังจาก "Emsphere" ห้างใหม่ในกลุ่ม "Em District" เปิดตัวไป ก็เพิ่มกระแสให้กับพื้นที่รอบด้านได้เพียบเลย ขนาดแค่เปิดตัววันแรกคนก็มหาศาล เรียกว่าสมราคาตระกูล Em สุดๆ
คิดจะพักคิดถึงคิทแคท แต่ถ้าคิดถึงโดนัทอร่อยๆ ก็ต้องคิดถึงคริสปี้ ครีม ดิค้าบบ ไปลองกันยัง “คริสปี้ ครีม x คิทแคท” (Krispy Kreme x KitKat) กับ 3 โดนัทหน้าพิเศษสุดฟิน!!
แต่ก่อนผมคิดนะว่า การจะซื้อบ้านทีก็ต้องไปดูถึงโครงการ ไปดูให้เห็นกับตาแล้วค่อยตัดสินใจ แต่ด้วยอากาศแบบนี้ บางทีก็แอบส่องผ่านทาง Social เอาก่อน น่าจะดีกว่านะ 5555
เมื่อวันก่อนได้ไปเดินเล่นที่งาน "สถาปนิก’67" เป็นอีกงานที่ผมประทับใจแล้วอยากให้เพื่อน ๆ ตามไปกันมาก ๆ เลยนะ