เวลาเราเข้าไปเลือกซื้อคอนโดสักห้อง (หรือหลายๆ ห้อง อิอิ) ส่วนใหญ่พวกเก๋าเกม คงจะมีหนึ่งคำถามนี้ในอีกหลายร้อยคำถาม… ว่าพื้นทำมาจากอะไร วัสดุเป็นแบบไหน คงทนอย่างไร บลาๆ

 

        แต่สำหรับคนที่เพิ่งหันมาสนใจคอนโดหรือมือใหม่นั้น อาจลืมคิดและมองข้ามข้อนี้ไป เพราะความจริงแล้วเรื่องเบเบ อย่างพื้นนั้นมันก็มีเยอะแบบอยู่น้าาาา

 

        ถ้าไม่เชื่อไปมองไปอ่านกันได้เลยยยยยย… ในบทความหน้า… หยอกๆ 55555 อ่านบรรทัดถัดไปนี่แหละะะ!!!

 

 

 

        อันนี้เราน่าจะคุ้นหูคุ้นตากันบ่อยที่สุด เพราะเป็นพื้นที่เราใช้กันบ่อยและใช้มานานมากกกกกกกกก ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีลวดลายสีสันให้เลือกมากยิ่งขึ้น

 

        โดยข้อดีคือถึกทนต่อการโดนน้ำและความชื้นสุดๆ ไม่ต้องกังวลว่าน้ำหกและพื้นจะบวมน้ำ แถมปลวกก็แทะไม่เข้าด้วย คิคิ

 

        สำหรับข้อเสียของตัวนี้อยู่ที่ รอยต่อของกระเบื้องแต่ละแผ่นหรือที่เค้าเรียกกันว่ายาแนว ที่ถ้าปูไม่ดีไม่เนียนจะเห็นเลยว่าร่องไม่เท่ากัน และนานๆ ไป ถ้าดูแลรักษาไม่ดีตรงรอยต่อที่ว่าจะเกิดเป็นคราบดำสกปรก หรือทำของหนักหล่นแรงๆ กระเบื้องก็อาจแตกได้ด้วยนะ

 

        ซึ่งกระเบื้องทั้งสองชนิด มีความแตกต่างกันอยู่นิดหน่อย นั่นคือ กระเบื้องแกรนิตโตจะมีความแข็งแกร่งมากกว่ากระเบื้องเซรามิค รวมไปถึงราคาที่แพงกว่าด้วย

 

        ส่วนพื้นแบบนี้สามารถใช้ได้กับทุกห้องเลย แต่ที่นิยมเห็นจะเป็นห้องน้ำ ห้องครัว และระเบียงเสียมากกว่า

 

 

 

        คอนโดส่วนมากจะเลือกพื้นลามิเนตมาปูซะส่วนใหญ่ เพราะมีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องของราคาที่ไม่แพง ให้ความสวยงามคล้ายไม้จริง ทนต่อรอยขีดข่วน รับแรงกดได้ดีพอสมควร ปลวกไม่รับประทาน ติดตั้งไม่ยากหรือถ้าแผ่นไหนเจ๊งต้องซ่อมก็แงะออกมาเปลี่ยนใหม่ได้ง่าย

 

        แต่ข้อเสียคือเป็นโรคกลัวน้ำ ฮ่าๆๆๆ คือถ้าพื้นมีความเปียกชื้น หรือทำน้ำหกต้องรีบเช็ดทันที ห้ามปล่อยให้แห้งเองเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นพื้นจะเกิดอาการงอนทำแก้มป่องพองตัวขึ้นมาให้เราเห็นแบบเด่นชัด

 

        อ่ออ!!! ตัวช่างเองก็ต้องปูแบบมีความประณีตด้วยเหมือนกันนะ เพราะถ้าทำไม่เรียบร้อยพื้นก็พองตัวอยู่ดี

 

        สำหรับพื้นลามิเนตใช้กับห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องกลิ้งเล่นก็ได้ทั้งนั้นนนน

 

 

 

 

        เป็นการนำไม้จริงขนาดไม่ใหญ่มาต่อเรียงกันเป็นชิ้นๆ สามารถนำเศษส่วนที่เหลือของไม้จริงมาผลิตเป็นพื้นชนิดนี้ จึงทำให้มีความรู้สึกเป็นธรรมชาติคล้ายไม้จริงทั้งแผ่น แถมราคายังย่อมเยากว่าไม้จริงอยู่เยอะเลยทีเดียว

 

        จุดด้อยคือเป็นรอยขีดข่วนง่ายเวอร์ เวลาเคลื่อนย้ายสิ่งของโดยไม่เอาผ้ารองฐานไว้ก่อนนะ อืมหืมมมมม รอยยาวตามทางที่เราลากเลยค่าาาา

 

        แต่ถ้าดูแลรักษาดีๆ ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม (นี่ก็เวอร์ไป 5555) ก็ทำให้พื้นนี้อยู่กับเราได้นานเป็นสิบปีเช่นเดียวกันนะ

 

        สามารถปูได้เกือบทุกห้อง ห้องนอน ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น

 

  

 

        สำหรับอันนี้เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นไม้จริงร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะหน้าไม้ทำจากไม้จริงๆ ส่วนตัวโครงสร้างภายในจะคล้ายกับพื้นลามิเนตคือมีแกนกลางและแผ่นรองปูพื้น

 

        ฉะนั้นเวลาเท้าสัมผัสกับพื้นจะให้ความรู้สึกเหมือนเหยียบไม้จริงๆ เลย ซึ่งสีที่นิยมจะมีอยู่สองสี คือแบบโทนมืดอย่างสีไม้สัก หรือโทนสว่างอย่างสีไม้โอ๊ค แต่ความจริงก็มีหลายเฉดให้เราเลือกอยู่นะ

 

        ถามว่าจุดที่ต้องกังวลอยู่ตรงไหน ก็คงคล้ายกับพื้นลามิเนตที่ควรหลีกเลี่ยงการทำน้ำเจิ่งนอง และไม้เอนจิเนียร์ไม่สามารถขัดผิวทำสีใหม่เหมือนไม้จริงได้

 

        ตัวราคาเองก็แรงประมาณหนึ่ง แพงกว่าลามิเนตประมาณสองเท่าได้ เลยทำให้เราจะเห็นพื้นแบบนี้ในคอนโดที่หรูหราเสียส่วนมาก

 

 

 

        ไวนิลหรือกระเบื้องยาง ทำมาจากวัสดุยางPVC ที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงามมากว่าแต่ก่อน คล้ายวัสดุธรรมชาติมากขึ้น มีสีสันลวดลายให้เลือกเพียบบบบ

 

        จุดเด่นคือราคาถูก แข็งแรงทนทาน กันน้ำกันฝนไม่มีถอย ถ้าสึกหรอสามารถซ่อมแซมได้ง่าย แต่ว่าจะไม่ชอบความเจ็บปวดรุนแรง เพราะนิดหน่อยก็เป็นรอย ฮ่าๆๆๆ

 

        เราว่าพื้นไวนิล ปูในห้องครัวได้สบายๆ หรือจะปูในห้องนั่งเล่นก็ชิลๆ กันไป

 

        เอาหล่ะคราวนี้ต่อไปตอนไปดูคอนโด ดูห้องตัวอย่าง เวลาเราถามว่าพื้นทำมาจากอะไร และพอเซลล์ตอบกลับมารับรองว่าร้องอ๋อออออ เข้าใจได้ทันที จนไม่ต้องให้เซลล์อธิบายเพิ่มเติมแล้ว

 

        แถมยังได้รู้อีกด้วยนะว่าคอนโดหนึ่งห้องราคาเท่านี้ แต่ปูพื้นให้เราแบบไหนดีหรือไม่ เหมาะสมคุ้มค่ากับเงินที่เราเสียไปไหม เพราะเรื่องเบเบ พื้นๆ ที่เราต้องเหยียบทุกวันนี่แหละ เป็นอีกหนึ่งตัวสำคัญไม่แพ้จุดอื่นๆ เล้ยยยยยยย!!!