นิติดดอย EP.4 : มารู้จักกับสินทรัพย์ทางการเงินกันเถอะ

นิติดดอย EP.4 : มารู้จักกับสินทรัพย์ทางการเงินกันเถอะ

Home   /   ติดดอยมีเงิน

โซน : 18 Oct 2018   15:45


         เราได้รู้จักทางเลือกการลงทุนกันไปแล้ว แต่ช้าก่อน ก่อนที่เราจะเริ่มต้นการลงทุน เราควรจะมาเรียนรู้กันก่อนว่า เงินของเรานั้นสามารถนำไปลงทุนในสินค้าการเงินอะไรได้บ้าง ระดับความเสี่ยงเป็นอย่างไร ผลตอบแทนของการลงทุนในแต่ละแบบเป็นเช่นไร เพื่อที่เราจะได้จัดสรรเงินของเราไปลงทุนในสินค้าการเงินแต่ละส่วนได้อย่างเหมาะสมตามต้องการ และสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้ด้วยค่ะ
  
         สินทรัพย์ทางการเงิน หากจัดตามระดับความเสี่ยงแล้ว สามารถแบ่งได้เป็น 8 ประเภท เรียงตามระดับความเสี่ยงต่ำ ไปจนถึงระดับความเสี่ยงสูง ได้ดังนี้



         1. เงินฝากและกองทุนรวมตลาดเงินที่ลงทุนในประเทศ
 
         เงินฝากอันนี้ง่ายๆ ค่ะ ชัดเจนก็คือ เงินที่เรานำไปฝากไว้กับธนาคาร สิ่งที่จะได้รับตอบแทนจากการฝากเงินที่ธนาคารก็คือ ดอกเบี้ย แล้วแต่ทางธนาคารจะกำหนด นอกจากนี้หากเราลงทุนผ่านกองทุนรวม เราจะเรียกกองทุนรวมนี้ว่า "กองทุนรวมตลาดเงิน"
 
         กองทุนรวมตลาดเงิน ก็คือ กองทุนที่ไปลงทุนในตราสารเงิน เช่นเงินฝาก ตั๋วเงินต่างๆ ตราสารหนี้ที่มีคุณภาพและมีกำหนดชำระเงินต้นเมื่อทวงถามหรือมีอายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปีนั่นเอง ซึ่งการลงทุนในแบบนี้ จะเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด (ระดับความเสี่ยง 1) และมีสภาพคล่องสูง อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนน้อยมาก เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 0.50 – 2% ซึ่งไม่ชนะเงินเฟ้อค่ะ
 
         2. กองทุนรวมตลาดเงินที่ลงทุนในต่างประเทศบางส่วน
 
         การลงทุนในข้อนี้ก็จะคล้ายกับข้อที่ 1 แตกต่างกันตรงที่มีการลงทุนในตราสารเงินต่างประเทศผสมเข้าไปด้วย ทำให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
 
         อย่างไรก็ตามก็จะมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มเข้ามา ทำให้การลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงินที่ลงทุนในต่างประเทศบางส่วนมีความเสี่ยงที่สูงขึ้นด้วยค่ะ (ระดับความเสี่ยง 2)
 
         3.ตราสารหนี้ประเภทพันธบัตรรัฐบาล
 
         ตราสารหนี้คือ ตราสารทางการเงินที่แสดงความเป็นหนี้ระหว่างกัน เหมือนสัญญาการกู้ยืมทางกฎหมายที่มีข้อตกลงที่ชัดเจน เช่น จะมีการจ่ายดอกเบี้ย หรือเงินต้นตามระยะเวลาที่กำหนด
 
 
         ถ้าเป็นภาครัฐบาล ถ้าจะมีการลงทุนในโปรเจ็คท์ใหม่ๆ เงินทุนที่รัฐบาลจะสามารถหามาใช้ได้ก็มี 1. ภาษี 2. กู้จากสถาบันทางการเงิน และ 3. กู้จากประชาชน ซึ่งการกู้จากประชาชนนี่เอง รัฐบาลจะออกเป็นตราสารหนี้มาให้ เป็นสัญญากู้ยืมระหว่างรัฐบาล (ผู้กู้) กับประชาชน (ผู้ให้กู้) ซึ่งเราเรียกว่า พันธบัตรรัฐบาล (Government Bond)
 
         4. ตราสารหนี้ประเภทหุ้นกู้
 
         ส่วนถ้าเป็นภาคเอกชน บริษัทต่างๆ ถ้าจะขยายการลงทุน ต้องการเงินลงทุนเพิ่ม ภาคเอกชนสามารถหาได้จาก 1. กำไรสะสมของกิจการ 2. กู้สถาบันทางการเงิน 3. ขายหุ้นเพิ่มทุน และ 4. กู้จากประชาชน
 
         โดยการกู้จากประชาชนของภาคเอกชน จะออกมาในรูปแบบตราสารหนี้เหมือนกัน แต่เราจะเรียกว่า หุ้นกู้ (Debenture) ขอสรุปอีกที ตราสารหนี้คือ สินทรัพย์ทางการเงินชนิดหนึ่งที่ทำให้เรามีสถานะเป็นเจ้าหนี้ ถ้าลูกหนี้เป็นรัฐบาล ตราสารหนี้นั้นจะเรียกว่า พันธบัตรรัฐบาล แต่ถ้าลูกหนี้เป็นเอกชน ตราสารหนี้นั้นจะเรียกว่า หุ้นกู้ เนื่องจากรัฐบาลมีความมั่นคงกว่าบริษัทเอกชน ทำให้พันธบัตรรัฐบาลจะมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าหุ้นกู้ โดยที่พันธบัตรรัฐบาลจะมีระดับความเสี่ยง 3 ส่วนหุ้นกู้จะมีระดับความเสี่ยง 4
 
         นักลงทุนสามารถลงทุนในตราสารหนี้โดยตรงหรือจะลงทุนผ่านกองทุนรวมตราสารหนี้ก็ได้ค่ะ หากลงทุนทางตรงด้วยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลหรือหุ้นกู้ ผลตอบแทนที่เราจะได้รับ คือ ดอกเบี้ยที่ผู้ออกตราสารหรือลูกหนี้ ตกลงจะมอบให้ตลอดระยะเวลาที่ถือตราสารหนี้นั้น
 
 
         หากลงทุนผ่านกองทุนรวมตราสารหนี้ ผลตอบแทนที่คุณจะได้จากการลงทุน จะไม่ใช่ดอกเบี้ยแล้วนะคะ แต่จะอยู่ในรูปของเงินปันผลแทน (ซึ่งต้องไปดูนโยบายการลงทุนเพิ่มเติมด้วยว่า กองทุนตราสารหนี้ที่คุณลงทุนอยู่นั้น มีนโยบายจ่ายเงินปันผลหรือไม่) นอกจากเงินปันผลแล้ว คุณยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนในรูปของ กำไรจากส่วนต่างราคาด้วยเช่นกัน หากมูลค่าของกองทุนรวมตราสารหนี้ที่คุณลงทุนนั้น มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
 
         ข้อดีของสินทรัพย์ประเภทนี้ คือ ได้ดอกเบี้ยตลอดระยะเวลา (ได้รับรายได้สม่ำเสมอ) แล้วแต่ทางลูกหนี้จะกำหนดว่า จะจ่ายทุกๆ รอบใด 1 ครั้งต่อปีหรือ 2 ครั้งต่อปี เป็นต้น ได้ดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนที่สูงขึ้น เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3 - 4% อย่างไรก็ตามผลตอบแทนก็ยังถือว่าน้อยพอๆ กับอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย (ไม่ชนะเงินเฟ้อ)
 
         สำหรับสินทรัพย์ทางการเงินอีก 4 ประเภทที่เหลือ คงต้องติดตามต่อในตอนต่อไป แล้วพบกันค่ะ ^^
 
 
 
ผู้เขียน นิภาพันธ์ พูนเสถียรทรัพย์ CFP
นักวางแผนการเงินอิสระ วิทยากร และนักเขียน
 

Tag :



ติดดอยแนะนำ

ติดดอยรีวิว

"Cooper Siam" คอนโด Loft ของแทร่ ที่ถึงบรรทัดทอง เยาวราชของคนรุ่นใหม่ ได้ใน 1 นาที!!

ช่างเป็นคอนโดที่เหมาะกับคนเห็นแก่กินอย่างพวกผมยิ่งนัก 555 จะหันซ้ายหันขวา ก็คราคร่ำไปด้วยร้านของกินเด็ดๆ เรียงกันเป็นแถว

ทำไม "Supalai Premier สามเสน-ราชวัตร" ยังไงก็ขายหมด

เคยมีคนถามผมว่า "สมัยนี้ ยังสามารถสร้างคอนโดที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้าได้ไหม?" ได้สิ เพราะแม้ว่าความใกล้ รถไฟฟ้า จะเป็น 1 ในปัจจัยหลักที่สำคัญมาก แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ "ขาย" ได้อยู่อีก

หนึ่งในคอนโดที่ปล่อยเช่าดีมาก ตอนเช้าย้ายออก ตอนบ่ายย้ายเข้าเลย

จะมีคอนโดปล่อยเช่าอยู่อันนึง ที่แม้แต่ตอนโควิดก็ไม่มีผลอะไร มีคนเช่าตลอดๆ แทบไม่มีช่วงว่าง บางครั้งคือ คนเก่าย้ายออกตอนเช้า ตอนเย็นคนใหม่ใส่หน้ากากอนามัยขนของเข้าอยู่ต่อเลย


ติดดอยโร้ดทู

"Passion Living Sukhumvit 38" จะใช้ชีวิตติด Passion สไตล์อนันดา ก็ต้องมีคอนโดติด BTS ทองหล่อหลายๆ ตัวหน่อย

"PASSION LIVING" คือชื่อที่อนันดาใช้สำหรับแปะป้ายพื้นที่โครงการครับ

PYNN Pridi 20 (พินน์ ปรีดี 20) คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ ใกล้ BTS พระโขนง ขีดสุดของความ Privacy เพียง 36 ยูนิต

'PYNN Pridi 20' (พินน์ ปรีดี 20) คอนโดใหม่แถวซอยปรีดีฯ 20 จากภาพที่เห็นตอนเปิดตัว ก็พอทราบแล้วว่าแบรนด์ 'PYNN' เป็นแบรนด์ที่แสนสิริเค้าน่าจะปั้นให้มีจุดเด่นในแง่ของการเป็นคอนโดเล็กๆ ในซอยสงบๆ เน้นความเป็นส่วนตัวสูงและสามารถเลี้ยงสัตว์ได้

"มิวนีค เจริญกรุง" (MUNIQ Charoen Krung) คอนโดที่ฮอตตั้งแต่เปิดตัว บนทำเลสุดปังตรงข้ามนานาชาติโชรส์เบอรี่ วิวโค้งน้ำเจ้าพระยา

ตั้งแต่เปิดปีมาคอนโดภายใต้แบรนด์ 'MUNIQ' (มิวนีค) สามารถกวาดยอดขายช่วงพรีเซลไปได้แบบโกยได้โกยของแท้ เค้าเป็นแบรนด์ที่ทำให้ตอนนี้เมเจอร์ยอดขายรอรับรู้รายได้หรือ Backlog มากกว่า 4,400 ลบ. แล้วครับท่านผู้ชม!!


ติดดอยสไตล์

#ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านพฤษภาคม 2567 มาแล้วค้าบบบ

หน้าร้อนกำลังจะผ่านไป และฤดูแห่งความชุ่มฉ่ำกำลังก้าวเข้ามา ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ

“แอสเซทไวส์” เตรียมอวดโฉม 3 แคมปัสคอนโดพร้อมอยู่แบรนด์ Kave แล้ว วันนี้!

ตอนนี้จ้าวแคมปัสคอนโดของตลาดอสังหาบ้านเรา ไม่ต้องให้ใบ้ก็ตอบได้ว่าคือ“แอสเซทไวส์” นี่แหละ

"แสนสิริ" เปิดตัวแบรนด์ใหม่ "ELSE" EXCLUSIVE RESIDENCES ทำโครงการไม่เกิน 10 หลัง!

หมู่บ้านต้องมีไม่เกินกี่หลัง ถึงจะเรียก Private ถ้าแค่ 1 หลัง Private พอมั้ย? ‘แสนสิริ‘ เปิดตัวแบรนด์ใหม่ ‘ELSE’ เป็น EXCLUSIVE RESIDENCES ทำโครงการไม่เกิน 10 หลัง!

สุดเจ๋ง!! พี่จีนสร้างสนามบิน Lishui แห่งใหม่ในมณฑลเจ้อเจียง ชูเอกลักษณ์เมืองและธรรมชาติกับการสร้างสนามบินในสวน!!

ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีอะไรให้เราว้าวอยู่ตลอดเวลาจริงๆ นะ อย่างล่าสุดเค้ากำลังทำการสร้าง สนามบิน Lishui (หลี่ซุย) แห่งใหม่ในมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งพี่จีนไม่ได้สร้างให้เป็นแค่สนามบินธรรมดา แต่นี่คือสนามบินที่สร้างในสวน เป็นรูปแบบของสนามบิน "Forest City" !!

"Conrad Bangkok Sukhumvit Queens Park" โรงแรมใหม่ที่ถูกล้อมกรอบด้วยห้างตระกูล Em ณ พร้อมพงษ์นคร

หลังจาก "Emsphere" ห้างใหม่ในกลุ่ม "Em District" เปิดตัวไป ก็เพิ่มกระแสให้กับพื้นที่รอบด้านได้เพียบเลย ขนาดแค่เปิดตัววันแรกคนก็มหาศาล เรียกว่าสมราคาตระกูล Em สุดๆ

“คริสปี้ ครีม x คิทแคท” (Krispy Kreme x KitKat) ชวนทุกคนมาลิ้มลอง 3 ความอร่อยใหม่ได้แล้ววันนี้

คิดจะพักคิดถึงคิทแคท แต่ถ้าคิดถึงโดนัทอร่อยๆ ก็ต้องคิดถึงคริสปี้ ครีม ดิค้าบบ ไปลองกันยัง “คริสปี้ ครีม x คิทแคท” (Krispy Kreme x KitKat) กับ 3 โดนัทหน้าพิเศษสุดฟิน!!


© 2018 CONDOTIDDOI

ME ESTATE CO.,LTD
92/21 HOLLYWOOD STREET CENTER
PHAYATHAI RD. RACHATEVEE
BANGKOK 10400 THAILAND

02-656-6776
condotiddoi@gmail.com

CONTACT US

CONDOTIDDOI

CONDOTIDDOI

CONDOTIDDOI

085-546-4694

info.condotiddoi@gmail.com

Copyright www.condotiddoi.com © 2018
web design & programming by www.smilephp.com